ศูนย์ข่าวศรีราชา - อธิบดีข้าวหนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวใน จ.ราชบุรี และกาญจนบุรี ปลูกข้าวรักษ์โลกแบบ BCG Model ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต ขณะกรรมการ นบข.เสนอรัฐเข้มตรวจมาตรฐานข้าวหอมมะลิ หลังพบข้าวปลอมที่จีน
เมื่อเร็วๆ นี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้นำทีมผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมการข้าวจากศูนย์วิจัยข้าวราชบุรี และสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และราชบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานศูนย์ข้าวชุมชน พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ข้าวชุมชนตำบลท่ามะขาม อ.เมือง กาญจนบุรี และศูนย์ข้าวชุมชนบ้านเขานม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
โดยได้ผลักดันเกษตรกรหันมาปลูกข้าวรักษ์โลกตามแบบ BCG Model คือ การปลูกข้าวปลอดภัย ไร้สารเคมี ด้วยการใช้จุลินทรีย์ในการปลูกเพื่อลดต้นทุนการผลิตที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร และยังเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรใน 2 จังหวัดผลิตข้าวคุณภาพเพื่อรักษาตลาดข้าวไทย
เช่นเดียวกับการแนะนำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนำสาหร่ายแกมเขียวมาผสมผสานในการเพาะปลูก ซึ่งจะนอกจากจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังลดต้นทุนการใช้สารเคมีได้อีกทางหนึ่งด้วย
ขณะที่ นายสุเทพ คงมาก กรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในฐานะอดีตนายกสมาชาวนาและเกษตรกรไทย เผยว่า ปัจจุบันนอกจากผู้ปลูกข้าวไทยจะต้องประสบปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแล้ว ที่ผ่านมายังเจอปัญหาเรื่องข้าวหอมมะลิปลอมซึ่งพบมากในตลาดประเทศจีน
แต่ยังโชคดีที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการส่งเจ้าหน้าที่เข้ากวาดล้าง พร้อมสั่งปิดโรงงานผลิตข้าวหอมมะลิปลอมในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
“การปลอมข้าวหอมมะลิที่เกิดขึ้นทำให้เราได้รู้ว่า ข้าวหอมมะลิของไทยเป็นที่ต้องการของตลาดจีนอย่างมาก ถึงขนาดที่ผ่านมามีการตั้งโรงงานเพื่อปลอมข้าวหอมมะลิโดยการใช้วิธีแต่งสีและแต่งกลิ่นให้ดูเหมือนข้าวหอมมะลิไทยโดยเฉพาะ ฉะนั้นจากนี้ไปสิ่งที่เกษตรกรไทยพึงระลึกไว้คือการรักษาไว้ซึ่งคุณภาพข้าวหอมมะลิ”
นอกจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะต้องเข้มงวดตรวจสอบการผลิตข้าวบรรจุถุงที่ในปัจจุบันพบว่า มีผู้ผลิตข้าวถุงจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีการตรวจสอบว่ามีการนำข้าวด้อยคุณภาพหลอกขายคนไทยด้วยกัน หรือแม้แต่มีการผลิตข้าวหอมมะลิปลอมขายด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในภายหลัง
“เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 ที่ทำเนียบรัฐบาลไปแล้วเพื่อขอให้มีการกำหนดมาตรการตรวจสอบข้าวไทยที่จำหน่ายในประเทศควบคู่ไปด้วย”
นายสุเทพ ยังเผยอีกว่า จุดเด่นของข้าวหอมมะลิไทยอยู่ที่ความหอมและความนุ่มฟูของเมล็ดข้าว ซึ่งไม่ว่าจะเก็บไว้นานเพียงใด ความนุ่มและกลิ่นหลังจากหุงจะหอมตลอด ขณะที่เมล็ดข้าวยังมีความเรียวสวย มีสีขาวนวลเหมือนสีของดอกมะลิ
และความพิเศษสุดคือ แม้ว่าข้าวจะเย็นแล้ว แต่หากนำมาอุ่นอีกครั้งจะยังคงความนุ่ม อร่อย เหมือนเพิ่งหุงเสร็จใหม่ๆ ทั้งนี้
ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่ปลูกได้ปีละ 1 ครั้งและให้ผลผลิตน้อยกว่าข้าวหอมทั่วไป อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินบี 1 และบี 2 จึงทำให้มีความต้องการของตลาดสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ
