เชียงราย – บริษัทรับเหมา นำกระจกใหม่ติดตั้ง “สกายวอล์กผาเงา” เสร็จแล้ว เตรียมเปิดบริการเดินชมทิวทัศน์เหนือสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งแต่ 10 เมษาฯเป็นต้นไป พร้อมนำกระจกแผ่นเดิมที่แตกร้าวตั้งท้าพิสูจน์คนสงสัย รวมกลุ่มแบบไม่จำกัดน้ำหนัก ครั้งละ 10 คน รุมกระทืบพร้อมกัน ถ้าแตกอีกจ่ายทันที 500,000 บาท
ความคืบหน้า กรณีกระจกกลางลานสกายวอล์กผาเงาสามแผ่นดิน วัดพระธาตุผาเงา หมู่บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนดอยจัน ชายแดนไทย-สปป.ลาว เกิดการแตกของเนื้อในกระจกจนสามารถสังเกตุเห็นเป็นเศษเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วแผ่นอย่างชัดเจนแต่ตัวกระจกยังติดกันแน่น จนต้องมีการปิดบริการสถายวอล์กชั่วคราวตั้งแต่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด บริษัท นอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด ซึ่งรับติดตั้งสกายวอล์กดังกล่าว ได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมกระจกแผ่นใหม่เข้าไปติดตั้งแทนแผ่นเดิม และมีกำหนดจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสสกายวอล์กดังกล่าวได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 เม.ย.นี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ทางบริษัทและตัวแทนวัดฯ ได้นำกระจกแผ่นเดิมที่เกิดการแตกภายในดังกล่าวไปตั้งเอาไว้ตรงทางขึ้นดอยจัน แล้วนำกระสอบทรายจำนวนมากไปวางทับบนแผ่นเพื่อทดสอบน้ำหนักของกระจกที่ใช้บนสกายวอล์ก ซึ่งปรากฎว่าจากการนำกระสอบอย่างน้อย 20 ใบไปวางทับ และมีน้ำหนักกว่า 2,950 กิโลกรัม รวมทั้งยังเชิญชวนให้ผู้ที่ยังสงสัยสามารถสวมใส่ชุดป้องกันที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ พากันกระทืบแผ่นกระจกเพื่อให้พิสูจน์ความแข็งแกร่งทนทานอีกด้วย
นายเอื้ออังกูร อัครชัยไพศาล ประธานกรรมการบริษัทนอร์ทเทอร์นกลาส จำกัด กล่าวว่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้จะไปใช้บริการขึ้นสกายวอล์คดังกล่าว บริษัทจึงจะนำกระจกที่แตกครั้งก่อนไปติดตั้งบริเวณทางที่จะขึ้นไปสกายวอล์ก จากนั้นจะจัดให้คนที่สงสัยหรือต้องการท้าพิสูจน์ครั้งละ 10 คน โดยไม่จำกัดน้ำหนักแต่ละคนไม่จำกัดน้ำหนัก ร่วมกันกระทืบกระจกได้เป็นเวลา 1 นาที
“ถ้ากระจกเกิดแตกขึ้นมาอีกก็จะมอบเงินให้กลุ่มนั้นเลยทันทีจำนวน 500,000 บาท ดังนั้นคนที่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยสามารถไปทดลองและดูด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้ทราบว่าสกายวอล์คมีความปลอดภัยจริงหรือไม่ เพราะกระจกแบบนี้เป็นกระจกชนิดใหม่ในประเทศไทยจึงอาจจะยังมีคนสงสัย”
สำหรับสกายวอล์กวัดพระธาตุผาเงา ตั้งห่างจากแมน้ำโขงประมาณ 400 เมตร มีโครงสร้างเป็นโลหะสูง 25 ชั้น สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 381 เมตร มีกระจกใสที่ออกแบบเป็นทรงแปดเหลี่ยมยื่นไปกลางอากาศ 2 ฝั่ง และตรงกลางการต่อให้เชื่อมถึงกัน ทำให้เนื้อที่ของกระจกรวมกันทั้งหมดประมาณ 460 ตารางเมตร ออกแบบให้สามารถรองรับแผ่นดินไหวแรงได้ และเนื้อกระจกเป็นแผ่นซ้อนกัน 3 ชั้น มีความหนาไม่รวมฟิล์มเครือบประมาณ 48 มิลลิเมตร
เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นสัมผัสครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2565 ซึ่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวพากันไปใช้บริการอย่างคับคั่งกระทั่งเกิดปัญหาการเนื้อในกระจกแผ่นหนึ่งแตก ทำให้ทางวัดได้ประกาศหยุดปรับปรุงชั่วคราวกระทั่งมีการซ่อมแซมและท้าให้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของแผ่นกระจกเดิมดังกล่าว.
