ลำปาง – ผู้ว่าฯสั่ง นอภ.เมืองลำปาง นำกำลัง อส.ลุยตรวจบ่อนกลางเมือง พบเปิดโรงแรมดังตั้งโต๊ะบาคาร่า-เสือมังกร-ตู้ยิงปลา รับแลกชิปเล่นได้เสียกันทุกวันมานาน รวบ 40 เซียนพนันคาหนังคาเขาพร้อมของกลางส่งขึ้นโรงพัก พร้อมสั่งปิด รร.ฉาวไว้ก่อน
นายชัชวาลย์ ฉายุบัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดัง ตั้งอยู่ในชุมชนศรีหมวดเกล้า ตำบลชมพู อำเภอเมืองลำปาง เมื่อคืนที่ผ่านมา(7 เม.ย.66) หลังสั่งการให้นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง นำกำลังเข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าโรงแรมแห่งนี้ลักลอบเปิดเล่นการพนันกันมานานและแต่ละวันจะมีนักพนันหมุนเวียนเข้ามาเล่นกันจำนวนมาก
ซึ่งนายธนารัฐ พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจ เข้าตรวจสอบและพบว่าภายในอาคารสองชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถงโล่งยาว ได้ลักลอบเปิดโต๊ะเล่นการพนันหลากหลายชนิด และมีนักพนันจำนวนมากกำลังเล่นพนันกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงเรียกกำลังเข้าปิดล้อมและปิดประตูเข้า-ออกห้องทันที
จากนั้นจึงให้กำลังเข้าตรวจสอบภายในห้อง พบมีการตั้งโต๊ะการพนัน 3 โต๊ะ คือ โต๊ะบาคาร่า โต๊ะเสือมังกร ตู้ยิงปลา ,ชิบแลกเงิน ,คูปอง ซึ่งระบุชื่อโรงแรมสำหรับแลกเงิน และเงินสดกว่าแปดหมื่นบาท นักพนันทั้งหญิงชายรวม 40 คน
เจ้าหน้าที่จึงให้ทุกคนหยุดเล่นและให้ไปรวมตัวกันอยู่มุมห้อง ก่อนตรวจยึดของกลางและเก็บรวมบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดที่เป็นแบบสั่งการจากมือถืออีก 3 ตัว พร้อมอุปกรณ์สื่อสาร จากนั้นจึงนำตัวนักพนันทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกหกล้อของกรมการปกครอง เพื่อนำตัวส่งให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเขลางค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายชัชวาลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าสถานที่แห่งนี้มีการลักลอบเล่นการพนันจึงประสานให้นายอำเภอเมืองลำปางเข้าตรวจสอบ แล้วพบว่าเป็นความจริงจึงได้นำกำลังเข้ามาปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว ซึ่งจากที่ตรวจสอบพบว่ามีการเล่นกันทั้งแบบเงินสด และชิป ด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นบ่อนใหญ่เพราะมีโต๊ะเล่นพนันพร้อมสรรพ คนเล่นก็มากถึง 40 คน
ส่วนสถานที่คือโรงแรม เบื้องต้นก็จะต้องสั่งปิดและตรวจสอบเพราะอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้เล่นการพนันขนาดนี้ไม่ใช่ว่าจะขนเข้ามาได้ง่ายๆต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เจ้าของสถานที่ต้องรู้ ดังนั้นก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายและสั่งปิดโรงแรมไปก่อน
ด้านนายธนารัฐ นายอำเภอเมืองลำปาง เปิดเผยว่าหลังจากนี้ก็จะตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในห้องทั้ง 3 ตัว เพื่อนำมาเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับเจ้าของสถานที่คือโรงแรม ซึ่งก็จะสั่งปิดและเพิกถอนใบอนุญาตก่อนเป็นอันดับแรกเพราะหลักฐานชัดเจน ส่วนการดำเนินคดีในส่วนอื่นขอรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลก่อน