นครสวรรค์ - ทีมกู้ภัยโกรกพระถึงกับผวา หอบคลิปขึ้นโรงพักแจ้งความแล้ว..หลังหนุ่มอาสากู้ภัยฯ เบิลเครื่องกันมอเตอร์ไซค์ดับกลางทาง ทำแก๊งวัยรุ่นที่เคยอยู่กู้ภัยใกล้กันเข้าใจผิด ตามก่อกวนหนักถึงขั้นใช้มีดไล่ทำร้าย
กรณีมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ทีมกู้ภัยในพื้นที่ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ถูกกลุ่มแก๊งวัยรุ่นก่อกวน และพยายามใช้อาวุธมีดไล่ทำร้าย พร้อมระบุข้อมูลในเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6” ด้วยว่า “เด็กดีของพ่อแม่อะนะ..แต่มาไล่ฟัน สมาชิก จนท.อาสากู้ภัย มีปมปัญหาอะไรควรจบด้วยการพูดคุยกันสิ ตร.เจ้าของพื้นที่ช่วยจัดการป้องปรามจับกุมให้ด้วย พิกัดบ้านเลขที่ 189 หมู่ 4 ต.โกรกพระ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ครับ
..พี่ครับ ผมจากสมาคมอาสากู้ภัยโกรกพระ เมื่อคืนได้มีกลุ่มวัยรุ่นในท้องถิ่นยกพวกเอามีดมาไล่ฟันเด็กในสมาชิกอาสากู้ภัย พวกผมจะทำอย่างไรดีครับ พวกผมไม่เคยทะเลาะกันครับ มีแต่พวกเขาที่คอยจะมาหาเรื่องพวกผมตลอดเวลาครับ คือเราโดนทุกวันเลยครับ ไม่ไหวแล้วครับพี่ ตอนนี้นอนผวากันหมดแล้วครับ ไม่รู้จะโดนอะไร ป้องกันตัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวกับอาสากู้ภัยโกรกพระ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งนายพรรษา อินทจิต อายุ 31 ปี หัวหน้ากำลังพลสมาคมอาสากู้ภัยโกรกพระ บอกว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงดึกวันที่ 28 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา ขณะตนและทีมกู้ภัยเพิ่งจะนั่งรับประทานข้าวด้วยกันเสร็จ เวลา 22.00 น. จู่ๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นใช้รถจักรยานยนต์นับ 10 คันผลัดกันมาเบิลเครื่องรถเสียงดังอยู่ที่บริเวณด้านหน้ากู้ภัยอยู่หลายรอบ ทั้งยังส่งเสียงด่าทอให้ของลับ แล้วยังมีการเอาขวดเบียร์มาขว้างใส่รถกู้ภัยอีกด้วย แต่โชคดีที่ไม่โดน จึงไม่มีอะไรเสียหาย
ซึ่งตอนแรกก็คิดว่ามันจะจบไปแล้ว แต่พวกนั้นก็ไม่จบ ขี่รถวนกลับมาก่อกวนอีก และคราวนี้ถึงกับจะเอามีดมาวิ่งไล่ฟันเจ้าหน้าที่กู้ภัย จนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเอาชีวิตรอดวุ่นวายกันไปหมด จนสุดท้ายตนทนไม่ไหว เลยให้ทีมงานถ่ายบันทึกคลิปเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความเอาผิด
“คลิปที่บันทึกเอาไว้ได้ ก็จะเห็นวัยรุ่นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกู้ภัย แล้วตะโกนให้ของลับ พร้อมร้องเรียกให้เจ้าหน้าที่อาสาไปตีไปต่อย นาทีนั้นเราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุสถานเดียว แต่เมื่อตำรวจมาตรวจสอบความสงบเรียบร้อย และขับรถกลับไปแล้ว ไอ้กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้ก็ขี่รถกลับมาวนเวียนก่อกวนต่ออีก ยันตี 3 พวกตนกลัวสุดๆ คืนนั้นแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนกัน”
เมื่อถามถึงกลุ่มวัยรุ่นที่มาก่อกวน นายพรรษาระบุว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในทีมกู้ชีพกู้ภัยอีกแห่งหนึ่ง ที่มีที่ทำการอยู่ห่างจากสมาคมฯ ไปประมาณ 60 เมตร ซึ่งกู้ภัยทั้งของตนและของเขาก็เปิดอยู่ร่วมกันมานานหลายปี ไม่เคยมีปัญหากระทบกระทั่ง ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัวกันมาก่อน
จนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาสาของตนเกิดไปมีเรื่องกับทีมวัยรุ่นกู้ภัยกลุ่มนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ คือประมาณว่า อาสากู้ภัยของตนกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าที่ทำการของกู้ภัยฝั่งคู่กรณี แล้วเผอิญเครื่องรถจะดับ จึงได้เร่งเครื่องเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับกลางทาง จังหวะนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นทีมของกู้ภัยอีกฝั่งกำลังนั่งจับกลุ่มกันที่ด้านหน้ากู้ภัยของเขาเห็นแล้วเกิดความไม่พอใจ คิดว่าอาสากู้ภัยของตนไปเบิลรถหาเรื่อง ทำให้เกิดเรื่องก่อกวนขึ้นตั้งแต่บัดนั้นมาตลอด และมาก่อกวนแทบจะทุกวัน จนทำให้ทีมกู้ภัยของตนหวาดระแวงจะเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ชีวิต
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า หลังจากเกิดเรื่องได้พยายามไปพูดคุยเคลียร์ปัญหาหรือไม่ นายพรรษากล่าวว่า พยายามเคลียร์ทุกช่องทางแล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นก็ไม่ยอมฟัง แถมยังมาก่อกวนดุดันแบบไม่เกรงใจหนักขึ้นทุกวัน ตนพยายามจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของกู้ภัยฝั่งคู่กรณีแล้ว แต่ทางนั้นเขาปฏิเสธว่าวัยรุ่นที่มาก่อกวนไม่ใช่คนของเขาแล้ว เป็นเพียงอาสาที่เคยมาทำกู้ภัยด้วย แต่ได้ลาออกไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร จึงได้นำหลักฐานที่บันทึกคลิปไว้ได้เดินทางไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.โกรกพระ พร้อมกับแจ้งเรื่องไปทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง เพื่อขอให้ช่วยจัดการกับวัยรุ่นแก๊งนี้
“ส่วนตัวก็ไม่อยากจะอะไรมากนะ ขอแค่เคลียร์กัน และปรับความเข้าใจในเรื่องที่ทางนั้นเข้าใจผิด และขอให้รับปากว่าจะจบปัญหา ไม่มีเรื่องอะไรต่อกันอีก จะได้ต่างทำงานหน้าที่ช่วยเหลือสังคมกันได้อย่างสบายใจ แต่หากไม่จบ ผมก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ “สมาคมกู้ชีพ-กู้ภัยร่วมใจโกรกพระ” เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากอีกฝ่าย พบเจ้าหน้าที่อยู่ประจำสำนักงานเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น และอ้างว่าอาสากู้ภัยที่เหลือได้ออกไปปฏิบัติงานกันหมด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พร้อมเปิดเผยข้อมูลใดๆ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการหาหลักฐาน และขณะนี้กำลังไล่ตรวจเช็กภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อหาตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบสวน ก่อนพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
