xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านทับลานเฮลั่น มติ ครม.มีผลยึดแนวเขตปี 43 ให้อุทยานออกจากพื้นที่ราษฎร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวบ้านทับลานเขตรอยต่ออำเภอครบุรี-เสิงสาง และวังน้ำเขียวเฮลั่น หลังเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินป่าวประกาศมติ ครม.กรณีเอกสารสิทธิราษฎรถูกอุทยานแห่งชาติทับลานประกาศทับซ้อนเอกสารสิทธิที่ดินมาตั้งแต่ปี 24 สั่งให้อุทยานออกจากพื้นที่ราษฎร


วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บรรดาชาวบ้านในเขตอำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง อำเภอวังน้ำเขียว และอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งมีปัญหาข้อพิพาทกรณีที่มีการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้าน เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจงการแก้ไขปัญหาจากเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดนครราชสีมา และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาครบุรี

เจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการชี้แจงตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 กรณีเอกสารสิทธิราษฎรถูกอุทยานแห่งชาติทับลานประกาศทับซ้อนเอกสารสิทธิที่ดินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ทั้งหลักฐานโฉนด น.ส.3 ส.ค.1 และ ส.ป.ก. สร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎรทั้ง 4 อำเภอ เป็นปัญหาการดำรงชีวิตที่เอกสารสิทธิไม่สามารถขับเคลื่อนแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้


จนกระทั่งปี พ.ศ. 2543 คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นได้พยายามที่จะช่วยเหลือราษฎร โดยให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับที่ดินร่วมกับภาคประชาชน ร่วมสำรวจกันแนวเขต แต่ไม่สามารถประกาศออกเป็นกฎหมายได้ พี่น้องประชาชนจึงออกมาร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน และดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาแต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร


จวบจนคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นำแนวทางแผนที่แบบบูรณาการ หรือที่เรียกว่า One Map มาประกอบใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อน โดยมีแนวทางผู้ตรวจการแผ่นดินสนับสนุนข้อมูลและผ่านคณะกรรมการแห่งชาติแต่ละขั้นตอน จวบจนวันที่ 14 มีนาคม 2566 เข้าสู่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ โดยยึดพันธสัญญาเมื่อปี 2543 ที่เคยสำรวจกันแนวเขตเอาไว้ มาเป็นทางออกและประกาศใช้แนวเขต 2543

โดยให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งการทำสำรวจความถูกต้องภายใน 3 เดือน เพื่อประกาศเป็นการใช้กฎหมายต่อไป สร้างความดีใจให้แก่ชาวบ้านที่เคยได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มายาวนานกว่า 10 ปีเป็นอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น