บุรีรัมย์ - น้องโพส์ตติ๊กต็อก คาใจเหตุพี่สาวท้อง 9 เดือนไปคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ช่วงทำคลอดหมดสติหมอดูดเอาเด็กออก เกิดตกเลือดหนักจนช็อกต้องปั๊มหัวใจฟื้นกลับมาได้ แต่สุดท้ายพี่สาวกลับถูกตัดขาไม่ทราบสาเหตุ สาธารณสุขบุรีรัมย์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งโพสต์ระบายความรู้สึก เพราะคาใจกรณีพี่สาวท้อง 9 เดือนไปคลอดที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายกลับถูกตัดขา โดยข้อความระบุว่า “พี่เราเองค่ะเขาอายุ 39 ปี ท้อง 9 เดือน เขาปกติทุกอย่าง พอหมอนัดคลอดเขาก็ไปตามนัดรอคลอดปกติ แต่เขาไม่ได้ปวดท้องหมอเลยทำการเหน็บยา แต่เขาไม่มีแรงเบ่ง ระหว่างที่หมอทำคลอดเขาหมดสติ หมอเลยดูดลูกออกจนมดลูกพี่เราฉีก ตกเลือดหนักมาก จนช็อกหมดลมหายใจต่อหน้าน้องสาว หมอทำการปั๊มหัวใจต่อมาเขาก็โดนตัดขา เพราะอะไรเราก็ไม่รู้ เราจะไปเรียกร้องความยุติธรรมจากใครได้บ้างคะ”
หลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ให้กำลังใจครอบครัวและขอให้พี่สาวของคนที่โพสต์ปลอดภัย กระทั่งมีคอมเมนต์หนึ่งแสดงความเห็นว่า “งงทำไมคะ หมออธิบายญาติไปแล้ว และอีกอย่างท้องตอนอายุเยอะเสี่ยงทุกเรื่องค่ะ” ทำให้คนที่โพสต์ออกมาอัดคลิปตอบโต้ข้อความดังกล่าวลงโซเชียลอีกครั้ง
ระบุว่า “หนูก็ไม่รู้ว่าพี่เป็นคุณหมอ หรือพยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ไหนนะคะ แต่ถ้าพี่รู้ว่าพี่สาวหนูเสี่ยงอายุมากแล้วทำไมไม่ทำการผ่า ไม่ใช่ว่าพี่สาวจะมีอาการแบบนี้ตั้งแต่แรก พี่ไปนอนรอคลอดข้ามวันข้ามคืนนะคะ หนูไม่ได้เรียกร้องเอาสิทธิอะไรเลย แต่ที่โพสต์เพื่ออยากระบายความรู้สึก เพราะพี่สาวที่ร่าเริงแจ่มใส่ทำงานได้ เดินเหินได้ต้องมาถูกตัดขา หนูไม่รู้จะได้พี่คืนหรือเปล่า ถ้าไม่ให้กำลังใจก็อย่ามาเมนต์ให้ปวดใจอีก หนูไม่รู้ว่าพี่จะเมนต์ผิดหรือเมนต์ถูก แต่หนูพูดตามความรู้สึกว่า พี่หนูไม่ควรเป็นแบบนี้”
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามไปยังผู้โพสต์ ก็บอกเพียงว่าพี่สาวยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ส่วนเด็กที่คลอดออกมาปลอดภัยดี แต่ยังอยู่ในความดูแลของทางโรงพยาบาล แต่ตอนนี้ญาติยังไม่สะดวกจะให้รายละเอียดใดๆ เพราะเป็นห่วงพี่สาวที่ยังนอนรักษาอยู่โรงพยาบาล ส่วนที่ออกมาโพสต์ก็แค่ระบายความรู้สึกที่ครอบครัวต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ให้ข้อมูลว่ากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องตรวจสอบให้ชัดเจนรอบด้าน เพื่อจะได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง