แม่ฮ่องสอน - ไฟป่าแม่ฮ่องสอนยังลุกลามถี่ยิบ..ทำเกิดเหตุระทึกซ้ำ เกือบคร่าชีวิตหนึ่งในชาวผาบ่องที่ระดมช่วยดับ แถมมือมืดลอบจุดไฟเผาริมทางหลวงแผ่นดิน 108 หวิดลามไหม้ปั๊มน้ำมันวอด จนต้องระดมสกัดกันโกลาหล
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งการด่วนให้นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ น.ส.ศรันย์พร จันทร์ณบุตร ชาวบ้านแม่สะกึด หมู่ที่ 4 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเกิดอาการเป็นลมหมดสติกะทันหันขณะออกดับไฟป่าร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ไฟป่า ช่วงก่อนค่ำที่ผ่านมา (26 มี.ค. 66)
เหตุนาทีชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัดและอุณหภูมิของไฟป่าที่รายล้อม ทำให้ น.ส.ศรันย์พรเกิดอาการวูบหมดสติกะทันหัน ชุดดับไฟที่ไปด้วยกันต้องรีบนำตัวออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วนและส่งเข้ารักษาอาการที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน อาการเบื้องต้นล่าสุดรู้สึกตัวแล้วแต่ยังต้องพักรักษาตัว แพทย์ให้นอนรอดูอาการ 1 คืน พร้อมทั้งฉีดยากันชักให้เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมชักอยู่ด้วย
ขณะที่สถานการณ์หมอกควัน ไฟป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน วันที่ 27 มี.ค.ยังคงพบจุดความร้อนมากขึ้นกว่า 264 จุดในแทบทุกอำเภอ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็กลายเป็นปัญหาต่อเจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้าดับไฟป่าอย่างมาก
ซึ่งหนึ่งในนั้นลุกลามเป็นเหตุระทึกเมื่อเจ้าของปั๊มน้ำมัน PT ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนหลวงสาย 108 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน พบว่ามีคนลักลอบจุดไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้างด้านตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันและกำลังจะลามเข้าไปยังปั๊มด้วย จึงแจ้ง ตร.สภ.น้ำเพียงดินประสานขอสนับสนุนรถน้ำจากสำนักงาน ปภ.และ อบต.ผาบ่อง พร้อมขอกำลังชาวบ้านจากนายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง เร่งเข้าไปดับไฟอย่างเร่งด่วน
บริเวณที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างจากปั๊มน้ำมันเพียง 100 เมตร เป็นพื้นที่ป่าและเขาสูงชัน พบไฟป่ากำลังลุกไหม้ลามขึ้นไปบนยอดดอยกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทั้งชาวบ้านชุดดับไฟและรถน้ำต้องระดมฉีดน้ำดับไฟกันอย่างโกลาหล เนื่องจากเกรงว่าจะลุกลามเข้าไปยังปั๊มน้ำมัน นอกจากนี้ยังต้องแบ่งชาวบ้านอีกส่วนระดมเข้าทำแนวกันไฟในพื้นที่ที่รถน้ำเข้าไม่ถึง เพื่อไม่ให้ลามเข้าไปยังยอดดอย ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้โดยไฟไม่ทันลุกลามข้ามถนนเข้าไปยังพื้นที่ของปั๊มน้ำมัน
สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนเสียประโยชน์บางกลุ่มที่ต้องการจุดไฟเพื่อกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ เพราะพื้นที่ป่าบริเวณนี้ไม่มีสัตว์ป่าหรือของป่าที่ชาวบ้านจะเข้าไปเก็บได้เลย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรน้ำเพียงดินจะได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุและดำเนินการต่อมือดีที่ลอบเข้ามาจุดไฟในครั้งนี้ต่อไป
สำหรับคุณภาพอากาศในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนวัดได้ถึง 295 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่อำเภอปายสูงถึง 329 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ทุกอำเภอต้องจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) อุปกรณ์ทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพจากคุณภาพอากาศเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้รองรับตลอดเวลาด้วย
