เชียงราย - ไฟป่าเต็มดอย เย้ยประกาศจังหวัดห้ามเผา แถมเพื่อนบ้านเผาซ้ำ หมอกควันคลุมเชียงรายหนาต่อเนื่อง วัดค่าเป็นทางการ PM 2.5 ปาไปเกือบ 500 แต่ของจริงบางช่วงเฉียดพันแล้ว
วันนี้ (26 มี.ค. 66) สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.แม่จัน ฯลฯ ยังคงเต็มไปด้วยฝุ่นละอองหนาแน่นมากเป็นประวัติการณ์เหมือนหมอกหน้าฝนแต่เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5
ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้รายงานผลในช่วงเวลา 07.00 น.ว่าพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีปริมาณ PM 2.5 สูงถึง 459 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) สูงถึง 569 AQI
เช่นเดียวกับด้าน อ.เชียงของ ติดกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ค่า PM 2.5 สูงถึง 219 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเขต อ.เมืองเชียงรายวัดค่าได้ 211 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันมาหลายวัน
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภาคสนามในแต่ละพื้นที่กลับพบค่า PM 2.5 มากกว่าที่มีการรายงานนั้นอีกมาก โดยค่าเฉลี่ยของปริมาณฝุ่นตั้งแต่พื้นที่ชั้นในของศูนย์ไฟป่าเชียงราย-144 ถึงบริเวณชายแดนทั้งด้านภูชี้ฟ้า อ.เทิง อ.เชียงของ ดอยแม่สลอง อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย -ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พบค่า PM 2.5 บางจุดสูงถึง 500-900 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีอัตราเฉลี่ยจากศูนย์ดับไฟป่าประมาณ 27 แห่งตลอดแนวชายแดนอยู่ระหว่าง 200-900 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่สถานการณ์การเผาป่าในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอดแนวไม่ให้ลุกลามเข้ามาฝั่งไทยแต่ก็ทำให้เกิดฝุ่นปลิวไปทั่วบริเวณ
ส่วนภายในประเทศพบว่ายังคงมีการลุกไหม้ของไฟป่าโดยเฉพาะบนดอยปุยและอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก อ.เมืองเชียงราย และช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้อย่างหนักบนดอยหมู่บ้านแม่สาด ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย โดยได้ลุกไหม้เต็มขุนเขาใกล้กับหมู่บ้านทำให้เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและชาวบ้านต่างเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลามเข้าสู่ที่อยู่อาศัยตลอดทั้งคืน ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "สนองดวงจันทร์" เผยแพร่ภาพขณะเกิดเหตุการณ์ และ "เรียว เจแปน" ได้เผยแพร่อีกหลายใบลงใสกลุ่มสื่อสาธารณะพบมีเปลวไฟลุกไหม้เต็มขุนเขาตอนกลางคืนอย่างชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมานายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดเป็นเวลา 90 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.นี้ โดยแจ้งให้หน่วยงานภาคส่วนได้เข้มงวดและหากมีการฝ่าฝืนจะต้องดำเนินคดีซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีลักลอบเผาในเขตพื้นที่ป่าจะต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ถึง 30 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-3,000,000 บาท
