ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ใหญ่บ้านชวนเลี้ยงวัวพันธุ์ต่างประเทศ พัฒนาสายพันธุ์เพิ่มมูลค่าหลักแสนต่อตัว เผยวิธีเลี้ยงต้องเอาใจใส่ ไม่ให้วัวเครียด เลี้ยงจาก 1 ตัว ปัจจุบันมีกว่า 50 ตัวแล้ว แยกคอกพิเศษแม่พันธุ์ 5 ตัว ราคา 2 ล้าน สามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 แสนบาท
นายวิทูรย์ จรูญรุ่ง อายุ 46 ปี หรือผู้ใหญ่หนึ่ง เจ้าของจรูญรุ่งฟาร์ม 999/1 หมู่ 2 บ้านหนองหูช้าง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงประสบการณ์การเลี้ยงวัวกว่า 20 ปี จากเริ่มต้นเลี้ยงเพียง 1 ตัวโดยมีเงินทุนจากเงินสิดสอดแต่งงานที่พ่อแม่มอบให้ ปัจจุบัน มีแม่พันธุ์วัวสายพันธุ์ต่างประเทศ จำนวน 5 ตัว ซึ่งแยกเลี้ยงในคอกเดียวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และอีก 50 ตัวที่เป็นวัวพันธุ์นอกผสมกับพันธุ์พื้นเมืองที่เลี้ยงในสวน โดยแม่วัว 5 ตัว มีราคากว่า 2 ล้านบาท เป็นพันธุ์บราห์มัน อเมริกันบราห์มัน ฮินดูบราซิล ชาโรเล่ห์ เป็นตัวที่มีราคาสูงสุดตัวละ 5 แสน จำนวน 2 ตัว ส่วนลูกวัวอายุ 4-8 เดือน อีก2 ตัวรอจำหน่ายในราคา 2-3 แสนบาท
สำหรับแม่พันธุ์วัว และลูกวัวทั้ง 7 ตัวนี้ สาเหตุที่ต้องแยกออกมาเลี้ยงเป็นพิเศษ เพราะเป็นวัวที่มีคุณสมบัติแม่พันธุ์ที่ดี ให้ลูกถี่ปีละ 1 ตัว มีรูปร่างสมบูรณ์ ต้องกันคอกไม้ไผ่แยกแต่ละแม่พันธุ์ กางมุ้งป้องกันแมลง ให้วัวกินหญ้าสด ฟางแห้ง เปลือกสับปะรดอบ ในช่วงเช้าจะพาวัวไปเดินเล่นผ่อนคลาย และช่วงบ่ายอาบน้ำให้ ส่วนในคอกจะทำความสะอาด เก็บกวาดขี้วัวออกจากคอก ให้วัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และไม่เครียด ฉีดยาบำรุง ยาถ่ายพยาธิ ยาปากเท้าเปื่อย ยาลิมปิสกิน
“ที่ฟาร์มของตนถือว่าเลี้ยงมากที่สุดในอำเภอเมือง และประสบผลสำเร็จในการขยายพันธุ์และราคาขาย ขณะที่บางฟาร์มไม่สามารทำราคาขายได้ดี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัว วิธีการเลี้ยง หากเป็นการเลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติจะควบคุมได้ยาก และไม่เจริญเติบโต บางครั้งลูกบ้านในหมู่บ้านถามว่าทำไม่ถึงขายวัวได้ตัวละแสนบาท มากกว่าที่เกษตรกรรายอื่นขายได้เพียง 3 หมื่นบาท
ในฐานะตนเองผู้ใหญ่บ้าน จึงทำเป็นศูนย์เรียนรู้ให้ลูกบ้านมาดูวิธีการเลี้ยง ตนไม่ได้ปิดความลับอะไร เคล็ดลับสำคัญสุด คือ ความใส่ใจ คนเลี้ยงต้องมีใจรัก อย่าเลี้ยงตามกระแส ลองผิดลองถูก ต้องสังเกตพฤติกรรมของวัว เช่น ตนเคยให้ข้าวโพดโม่ มันที่ใช้หมักเอทานอล ส่งผลให้วัวทองอืด อาหารไม่ย่อย จึงต้องเลิกให้”
สำหรับราคาการซื้อขายวัวสายพันธุ์ต่างประเทศขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่มีการกำหนดตายตัว ส่วนแม่พันธุ์วัวนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูง ขึ้นอยู่กับรางวัลที่วัวประกวดชนะ ต้นทุนภาษีและการขนส่ง ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเท่าตัว เช่น วัวแม่พันธุ์ชาโรเรส์ ที่ชนะเลิศการประกวดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ น้ำหนัก 1.4 ตัน ราคา 3 ล้านบาท ที่มีผู้เลี้ยงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สนับสนุนให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงวัวสายพันธุ์ผสม หรือสายพันธุ์นอกมากขึ้น เพราะลักษณะวัวตัวใหญ่ เนื้อเยอะ ได้ราคาขายได้กว่าวัวพันธุ์พื้นเมืองไม่ต่ำกว่า 2 เท่า สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีรายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านบาท แต่หากช่วงไหนวัวมีความพร้อมผสมพันธุ์และความสมบูรณ์ของร่างกาย จะขายลูกวัวได้เดือนละตัว หรือขั้นต่ำ 2 แสนบาท
ด้านนายนิพล ทองเก่า อายุ 31 ปี เกษตรกรรายย่อย ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่หันมาเลี้ยงวัวสายพันธุ์นอก เนื่องจากตนเองเลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมืองมากว่า 10 ปี จึงหันมาเลี้ยงวัวพันธุ์ผสม เป็นสายพันธุ์นอกที่ผสมกับสายพันธุ์ไทย ที่ได้เปรียบเรื่องทนทานต่อสภาพอากาศ ทนโรค โดยแรกเริ่มเลี้ยงเพียง 1 ตัว ปัจจุบันมีอยู่ 5 ตัว และลูกวัวอีก 2 ตัว ซึ่งการเลี้ยงพันธุ์ผสมนั้นมีราคาไม่แพงจนเกินกำลังเกษตรกรรายย่อย หากเลี้ยงวัวที่เป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ 100% ต้นทุนพ่อแม่พันธุ์หลายแสนบาท จึงค่อยๆ เลี้ยงและขยายพันธุ์ตามความพร้อม