สระบุรี - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังจับยาบ้ากลางถนนมิตรภาพกว่า 2 ล้านเม็ด บริเวณ กม.21 ขาเข้าสระบุรี ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยขนยาบ้ามาจากแนวตะเข็บชายแดนทางภาคอีสาน และผ่านมาพื้นที่จังหวัดสระบุรี
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา/ศอ.ปส.ตร. พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ศอ.ปส.ตร นำโดย พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอําพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หน.ชปส.ภ.1 ชุดที่ 3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.ภ.1 ชุดที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.สระบุรี หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภ.1 ได้สนธิกำลังหลายหน่วยงานเข้าจับกุมขบวนการค้ายาบ้า
เนื่องจากมีสายรายงานว่า จะมีการขนยาบ้ามาจากแนวตะเข็บชายแดนทางภาคอีสาน และผ่านมาพื้นที่จังหวัดสระบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนการจับกุม โดยพบรถต้องสงสัย ตามสายรายงานมาว่า เป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับมาถึงบริเวณ กม.21 (ขาเข้าสระบุรี) หน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมรถต้องสงสัย
จากการตรวจค้นพบยาบ้าบรรทุกอยู่ภายในตัวรถ และท้ายรถ ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงห่อด้วยพลาสติกสีดำ และพันทับด้วยเทปใส ซึ่งภายในถุงพลาสติกพบยาบ้า 1,200 มัด จำนวน 2,400,000 เม็ด พันด้วยเทปสีเหลือง ปั๊มเลข 999 และตรามงกุฎสีน้ำเงิน บรรจุอยู่ในถุงสีน้ำเงิน ถุงละ 200 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ขับมาด้วยกัน 2 คน คือ นายเสกสรร หรือโหน่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และนายโกศล หรือโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ม.7 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลาง
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ตนทั้ง 2 คนรับจ้างขนยาบ้ามาจากแนวตะเข็บชายแดนทางภาคอีสาน เพื่อมาส่งโซนภาคกลาง โดยจะคนมารับอีกทอดหนึ่ง ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท โดยแบ่งกันคนละ 25,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน)โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมจะขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป