ตราด - โพสต์ขายจนได้เรื่อง! 2ผัวเมียใน จ.ตราด นำกัลปังหา และปะการังประกาศขายผ่านเฟซบุ๊กจนถูกร้องเรียนผ่านสายด่วน 1362 เจอเจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเล สนธิกำลังฝ่ายปกครองเขาสมิง และอีกหลายหน่วยนำหมายศาลบุกจับ ยึดของกลางเพียบ อ้างไม่รู้ผิดกฎหมาย
เย็นวานนี้ (22 มี.ค.) น.ส.อมรวรรณ ผุดวรรณา ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากฝ่ายปกครองอำเภอเขาสมิง ได้สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาสมิง ศรชล.ตราด เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารทรัพยากรป่าชายเลน จ.ตราด และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) รวมกว่า 30 นาย
นำหมายศาลจังตราด เดินทางไปบ้านเลขที่ 70/1 สะพานปลาบ้านอ่างกระป่อง หมู่ 4 ต.ท่าโสม อ.เขาสมิงจ.ตราด หลังได้รับแจ้งจากประชาชนผ่านสายด่วนรับแจ้งเหตุของศูนย์พิทักษ์ทรัพยากรทางทะเล 1362 ว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการเก็บ และครอบครองปะการังอันเป็นสัตว์สงวนที่ผิดกฎหมาย
โดยพบบ้านหลังดังกล่าวปิดล็อกประตูไว้และบริเวณอ่างเลี้ยงปลาหน้าบ้านมีการนำปะการังทั้งที่ผิดกฎหมายและไม่ผิดกฎหมายนำมาวางโชว์ไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า มีปะการังที่ไม่สามารถครอบครองได้จำนวนหนึ่งวางไว้ที่บริเวณข้างบ้าน
แต่เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่อยู่เจ้าหน้าที่จึงประสานไปผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้ติดต่อเจ้าของบ้านเดินทางมาเปิดประตูบ้านให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ตราด เผยว่า การเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวเนื่องจากพบว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ที่ใช้ชื่อว่า ปวีนา จีนะศิริ ได้โพสต์ขายกัลปังหา และปะการังผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ “เครื่อง…ทนสิทธิ แปลก! หายาก!”
จนชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนผ่านสายด่วน 1362 จึงเข้ามาทำการตรวจสอบ และพบของกลางในบริเวณบ้าน ซึ่งขอกลางที่พบเป็นการครอบครองโดยผิดกฎหมาย และยังมีการจำหน่ายผ่านออนไลน์อีกด้วย
"ทางศูนย์ฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าวในข้อหาจำหน่ายและครอบครองสัตว์สงวน ซึ่งมีโทษทางอาญา และเมื่อได้มาเห็นกับตาว่าที่บ้านของผู้โพสต์มีทั้งปะการังและกัลปังหาที่ไม่สามารถครอบครองได้ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะเป็นการทำลายความสมดุลทางธรรมชาติของท้องทะเล" ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ตราด กล่าว
ด้าน นายภูมิศักดิ์ จีนะศิริ อายุ 50 ปี และนางปวีนา จีนะศิริ อายุ 40 ปี 2 สามีภรรยา ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ทราบว่ากัลปังหา เป็นสิ่งผิดกฎหมายเพราะชาวบ้านเรียกว่า "รากหิน" ส่วนที่มีครอบครองไว้ส่วนหนึ่งเป็นการขอมาจากผู้อื่นมา บางส่วนเก็บได้ตามชายหาด
แต่ยืนยันว่าไม่เคยเก็บจากใต้ท้องทะเล ส่วนกัลปังหาจะถูกนำไปทำเป็นของขลัง เช่น กำไล หรือปลัดขิก
เบื้องต้น เจ้าหน้าทีื่ตำรวจได้ตรวจยึดกัลปังหากว่า 20 ต้น ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทไม่มีกระดูกสันหลัง และบางส่วนถูกแพกเตรียมส่งขายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตั้งข้อหา นายภูมิศักดิ์ จีนะศิริ และนางปวีนา จีนะศิริ ตามความผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ห้ามไม่ให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว และมาตรา 29 ห้ามมิให้ค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากสัตว์ป่าดังกล่าวหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ส่วนบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ