ตรวจแถวเลือกตั้ง 66 เมืองแปดริ้ว พบหน้าใหม่พรึบเต็มกระดาน เดินสายออกงานในพื้นที่อุตลุด เร่งสร้างกระแสแบบใครดีใครอยู่ ส่วนนักการเมืองหน้าเก่าจำต้องดิ้นรนหนีตายเฮือกสุดท้าย หลายรายจำใจวางมือปล่อยทายาทแถว 2 ลงสนามสู้กระแสเลือดใหม่ งานนี้จับตาดีๆ อาจมีพลิกเปลี่ยนตัวเต็ง ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 1
โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 สนามหินถิ่นเดิมของ “ฉายแสง” บ้านใหญ่ในตำนานที่พลาดโอกาสลงสนามกลางคันเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้วจากการถูกประกาศยุบพรรค “ไทยรักษาชาติ” จนต้องพ่ายการเลือกตั้งใหญ่ต่อเนื่องถึง 2 สมัย
ในการเลือกตั้งใหญ่ปี 66 นี้ยังตัดสินใจส่ง “ฐิติมา ฉายแสง” อดีต ส.ส.หญิงเพียงหนึ่งเดียวของเมืองแปดริ้วลุยสู้ศึกในนามพรรคเพื่อไทย และยังคงต้องเร่งหาคะแนนแข่งกับว่าที่ผู้สมัครรุ่นใหม่
โดยเฉพาะ อาร์ม “มติชน ชูทับทิม” ทายาทเจ้าพ่อวงการค้าไข่ไก่ระดับชาติ ที่ไม่ได้มีเฉพาะครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงไก่ไข่ในกำมือเท่านั้น แต่ยังได้รับการสนับสนุนจาก ผู้ใหญ่ไก่ “กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์” นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ผู้ใกล้ชิดคนบ้านใหม่เมืองชลบุรีอย่าง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ที่ส่งลงสนามในนาม “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จากซีกฝั่งรัฐบาล
คอการเมืองพื้นที่เชื่อว่าทั้งบารมีของบิดาและลุงที่ยังคงเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่สั่งสมคะแนนเสียงในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ที่อาจดึงกระแสมวลชนให้ช่วยกาบัตรออกเป็นคะแนนเสียงให้อาร์ม “มติชน ชูทับทิม” ได้อย่างไม่ยากเย็นหนัก
ด้านทายาทคนดังอีกราย “รัฐสภา นพเกตุ” อดีตรองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เขยตระกูล “จารุสมบัติ” ที่ลงสนามในนามพรรคพลังประชารัฐ ของลุงป้อม ถือเป็นอีกหนึ่งนักการเมืองสายผสม ที่อาจรวมคะแนนเสียงจาก 2 ฐานเสียงสำคัญได้อย่างน่าเกรงขาม
ไม่ว่าจะเป็นฐานคะแนนจากบิดา “กำนันบัง” หรือนายสมบัติ นพเกตุ คนดังหัวสำโรงแปลงยาว ที่ยึดมั่นแนวทางด้านการเมืองให้พรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งเมื่อนำมารวมกับผลงานของผู้นำรัฐบาล “พรรคพลังประชารัฐ” ถือเป็นสองแรงบวกที่น่าจับตา
ส่วนด้านตัวเต็งอย่าง นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ แชมป์เก่าที่แจ้งเกิดภายใต้กระแสพรรคคนรุ่นใหม่อย่าง “อนาคตใหม่” ในครั้งนั้น ซึ่งล่าสุดได้โยกย้ายสังกัดสู่ร่มเงา พรรคภูมิใจไทย พร้อมลงสนามเลือกตั้งด้วยทุนเก่าดูแลประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดทั้ง 4 ปี โดยเชื่อคะแนนเสียงที่มาจากใจจะทำให้ได้กลับคืนสู่ถนนสายสภาอู่ทองอีกครั้ง
นอกจากนั้น ในสนามการเลือกตั้งใหญ่ของ จ.ฉะเชิงเทรา ยังมีผู้มากประสบการณ์อีกหลากอาชีพ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่จากอีกหลายพรรคที่รอเปิดตัว เชื่อว่าจะสร้างความคึกคักให้การเลือกตั้งใหญ่ในปี 66 นี้ได้อีกมาก
ไม่ว่าจะเป็น นายประโยชน์ โสรัจจกิจ อดีตพนักงานการประปา ผู้ประสบความสำเร็จในเส้นทางสายอาชีพ และยังเคยเป็นถึงอดีตประธานหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา มาแล้ว 1 สมัย ที่เตรียมเปิดตัวในนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่ นายเถลิง จูจำรัส เศรษฐีใหญ่ผู้ไต่เต้ามาจากวงการค้าเป็ด ที่เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา
เช่นเดียวกับ “เชิดชัย บัณฑุเจษฎา” คนหนุ่มหน้าใสสดใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวร่วมกับพรรค “เสรีรวมไทย” ที่จะลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งเขตที่ 1 ถือเป็นการวัดพลังกลุ่มคนรุ่นเก่าที่เคยครองสนามการเมืองแปดริ้วได้เป็นอย่างดี