เชียงใหม่ - จังหวัดเชียงใหม่เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนดำเนินการไปแล้วกว่า 70% เร่งคลี่คลายสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำประชาชนยังคงป้องกันตนเองจากสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5
วันนี้ (21 มี.ค. 66) นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าในการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 66 ที่ผ่านมาว่า ส่งผลให้มีประชาชนได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ 22 ตำบล 87 หมู่บ้าน 3,595 ครัวเรือน โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่าม และหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งดอยปุย อำเภอเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงทหาร และพื้นที่อำเภอ ตำบลข้างเคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบ เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทันที ทั้งการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือนของราษฎรให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังได้ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาขนชาวเชียงใหม่ ถึงการดูแลป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมกับชี้แจงถึงสถานการณ์การเกิดจุดความร้อนในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้การเกิดจุดความร้อนของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่งผลให้ค่าฝุ่นควันอยู่ในระดับปานกลาง อีกทั้งยังได้แจงถึงสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่นควันลอยคลุ้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสวนทางกับการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ โดยการเกิดฝุ่นควันนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการเกิดจุดความร้อนภายในบ้านเรา และการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งส่วนใหญ่ปริมาณฝุ่นกว่า 50% ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้รับอิทธิพลมาจากพื้นที่ข้างเคียงหรือประเทศเพื่อนบ้านที่มีจุดความร้อนสูงถึงหลักพันต่อวัน ประกอบกับมีกระแสลมพัดผ่านมายังพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ และมีลักษณะภูมิศาสตร์ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง เป็นเหมือนแอ่งกระทะ จึงทำให้มีฝุ่นควันทำให้จังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีฝุ่นควันปกคลุมอยู่ทั่วทั้งจังหวัด และมีค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานในบางวัน ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองจากฝุ่นควัน หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง รวมถึงร่วมกันในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติให้อุดมสมบูรณ์ในทุกฤดูกาล เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุและเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน