จันทบุรี - ชื่นชม! อรสาฟู๊ด ล้งส่งออกผลไม้เมืองจันท์ ร่วมทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา นำผู้ต้องขังเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี 6 เดือน เข้าทำงานสร้างรายได้-แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ใจดีได้อีกพ้นโทษเมื่อไรรับเป็นพนังงานประจำหวังให้มีงานทำลดการกลับไปกระทำผิดซ้ำ
วานนี้ (20 มี.ค.) นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี ได้นำผู้ข้องขัง จำนวน 30 คน เข้าทำงานคัดแยกมังคุดที่บริษัท อรสาฟู๊ด จำกัด ซึ่งเป็นโรงคัดบรรจุผลไม้ หรือล้งส่งออกไปจำหน่ายประเทศจีน ตั้งอยู่ใน ต.คมบาง อ.เมืองจันทบุรี โดยผู้ต้องขังทั้ง 30 คนจะได้รับค่าตอบแทนในอัตราค่าแรงขั้นต่ำของ จ.จันทบุรี คือ 338 บาทต่อวัน
โดยผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา เผยว่า การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตาม MOU ที่ทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี ได้ทำร่วมกับบริษัท อรสาฟู๊ด จำกัด เพื่อสนับสนุนให้ผู้ต้องขังได้ทำงานที่โรงคัดบรรจุดังกล่าว
"ในวันนี้ถือเป็นวันแรกที่ได้นำผู้ต้องขังเข้ามาทำงาน ซึ่งผู้ต้องขังจะมีรายได้ตามค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัดเพื่อให้มีรายได้ระหว่างอยู่ในเรือนจำ หรือนำรายได้ส่งกลับไปให้ครอบครัวได้อีกทาง และที่สำคัญบริษัท อรสาฟู๊ด จำกัด ยังจะรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมาแล้วเข้าทำงานในช่วงที่ผลไม้มีจำนวนมากอีกด้วย"
ขณะที่ผู้ต้องขังที่จะได้รับโอกาสในการทำงานต้องมีคุณสมบัติ คือ ต้องเป็นผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกครั้งแรก และเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้ และระหว่างการทำงานจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเวลา
“ปัญหาหลักของกรมราชทัณฑ์ คือ การส่งต่อผู้พ้นโทษที่เมื่อเขาพ้นโทษออกไปแล้วยังไม่มีงานทำ และอาจกลับไปสู่วงจรเดิมๆ เช่น ยาเสพติด ลัก วิ่ง ชิง ปล้น แต่หากภาคเอกชนยื่นมือเข้ามาช่วยภาครัฐ โดยให้โอกาสผู้พ้นโทษ หรือผู้ที่ถูกจำคุกได้ทำงานจะเป็นการลดโอกาสให้ผู้พ้นโทษกลับไปทำผิดอีกครั้งได้” ผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี กล่าว
ด้าน นายมณฑล ปริวัฒน์ ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ บริษัท อรสาฟู๊ด จำกัด เผยว่า ในห้วงเวลาที่ผลไม้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก บริษัทมักพบประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น ผู้ต้องขังเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
และเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาแล้วบริษัทฯ ยินดีที่จะรับเข้าเป็นพนักงานประจำทุกคน เพื่อตอบแทนสังคมและยังเป็นการให้โอกาสผู้ต้องขัง
“หลายคนตั้งคำถามกับตัวผมว่าเมื่อนำผู้ต้องขังเหล่านี้มาทำงานด้วย ไม่กลัวว่าคุณภาพการทำงานจะไม่ดี หรืออาจเกิดปัญหากับเพื่อนร่วมงาน สำหรับผมแล้วมองว่าผู้ต้องขังควรได้รับโอกาส ซึ่งน้องๆ เคยผิดพลาด เมื่อได้รับโอกาสดีๆ มีเงินมีรายได้ การจะกลับไปทำผิดช้ำจึงเป็นเรื่องยาก"
นายมณฑล ยังฝากถึงผู้ประกอบการรายอื่นว่า การให้โอกาสผู้ที่เคยผิดพลาดเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะนอกจากจะลดการก่อเหตุซ้ำของผู้ที่เคยผิดพลาดแล้ว ผู้ประกอบการเองอาจจะได้บุคลากรที่ดีมีความสามารถเข้าร่วมงานเพิ่มมากขึ้นด้วย