พิจิตร - “อัครารีซอร์สเซส” เดินหน้าเปิดเหมืองทองพิจิตรอีกรอบแล้ว..นำ พนง.ทั้งเก่าและใหม่กดปุ่มเดินเครื่องโรงงานขุดทองตามเป้าหมาย 5.5 ล้านตันสินแร่
นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร, นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายความยั่งยืนขององค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหมู่ 9 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวร่วมสังเกตการณ์การเปิดเดินเครื่องจักรทำเหมืองทองอีกครั้ง
นายเชิดศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บริษัท อัครา รีซอร์สเซสฯ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า 20 มี.ค.เป็นวันแรกที่บริษัทอัคราฯ กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการครบถ้วนแล้ว โดยช่วงแรกจะเริ่มการผลิตจากโรงงานที่ 2 ที่เพิ่งซ่อมแล้วเสร็จเพียงแห่งเดียวก่อน หลังจากนี้อีกระยะหนึ่งถึงจะซ่อมโรงงานที่ 1 ที่เป็นโรงงานเก่ากว่า ซึ่งเมื่อซ่อมเสร็จบริษัทอัคราฯ ก็จะมีสองโรงงานที่ทำงานได้พร้อมๆ กัน และมีผลผลิตทองคำประมาณปีละ 5.5 ล้านตันสินแร่
สำหรับการเปิดเดินเครื่องเฉพาะโรงงานที่ 2 ซึ่งได้มีการจ้างพนักงาน 90% เป็นคนในพื้นที่ 3-4 อำเภอรอบเหมือง (พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์) ประมาณ 250-260 คน มีการจ่ายค่าจ้างพนักงานในทุกระดับรวมกัน 10-12 ล้านบาทเศษ/เดือน เม็ดเงินเหล่านี้จะช่วยหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ชุมชนที่อยู่รอบๆ เหมืองทองอัครา
ซึ่งสังเกตได้จากร้านค้าในชุมชน ตลาดนัด ตลาดสดยามเช้า-เย็น ร้านของชำ ต่างคึกคักด้วยเม็ดเงินจากค่าแรงส่วนนี้ ส่งผลให้การเงิน เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทวีคูณเป็น 2-3 เท่าตัว จึงถือได้ว่าการเปิดดำเนินกิจการเหมืองทองรอบใหม่ของบริษัทอัคราฯ ช่วยให้คนมีงานทำ มีเงินเดือน มีรายได้ทางตรงและร้านค้าในชุมชนก็ได้รับอานิสงส์มีรายได้ทางอ้อมไปได้ด้วย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเจ้าพนักงานที่ดิน-บริษัทอัคราฯ เกี่ยวข้องกับเรื่องการออกเอกสารสิทธิที่ดิน นายเชิดศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ได้อ่านข่าวคิดว่าเรื่องดังกล่าวยังมีประเด็นที่มีความคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญพอสมควร ซึ่งได้มอบหมายทางฝ่ายกฎหมายติดตามข้อมูล และเตรียมความพร้อมในการเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. และอัยการ ซึ่งก็หวังว่าจะได้รับโอกาสให้เข้าชี้แจงด้วยพยานและหลักฐานที่สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น
น.ส.จิรานุช ธัญญเจริญ ชาวบ้านจากหมู่ 2 บ้านวังขวัญ ต.วังโพรง และ น.ส.พร้อมพรรณ ขุนทอง ชาวหมู่ 4 บ้านด่านช้าง ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ และเพื่อนๆ กว่า 10 คน ที่ล้วนเป็นบัณฑิตใหม่และเพิ่งได้ทำงานที่เหมืองทองอัคราเป็นแห่งแรก บอกทำนองเดียวกันว่า ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพนักงานบริษัทอัครา ซึ่งเป็นโรงงานที่อยู่ใกล้บ้านทำให้ตัวเองมีงานทำ มีรายได้ และได้อยู่กับครอบครัว
ซึ่งตอนที่บริษัทอัคราถูกปิดกิจการไปหลายปีบวกกับสถานการณ์โควิด ทำให้เศรษฐกิจชุมชนแทบจะล่มสลาย หลายคนต้องออกจากบ้านไปหางานทำต่างถิ่นและในเมืองหลวง เมื่อบริษัทอัครากลับมาเปิดดำเนินกิจการ หลายคนมีงานทำ มีเงินเดือนกิน เป็นรายรับทางตรง ส่วนคนที่ไม่ได้ทำงานในเหมืองก็มีรายได้ทางอ้อม คือการทำมาค้าขายสินค้าและบริการต่างๆ จึงทำให้เศรษฐกิจในชุมชนกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการเปิดเหมืองทองอัคราวันแรก ซึ่งมีทั้งพนักงานเก่าได้กลับเข้ามาทำงานและพนักงานใหม่ที่ได้เข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรก สัดส่วนครึ่งต่อครึ่ง ขณะที่ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์มีการ Training เรื่องบทบาทหน้าที่และการสื่อสารกับชาวบ้านที่อยู่รอบเหมือง ถึงเรื่องเงินกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบเหมืองที่มีปีละ 15 ล้านบาทว่า ชาวบ้าน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถเข้าถึงได้โดยทำโครงการเข้ามาให้คณะกรรมการพิจารณาขอใช้เงินเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตามหลักเกณฑ์ใหม่จะมีคณะกรรมการบริหารกองทุนที่เป็นคนในพื้นที่ จึงน่าจะเข้าใจปัญหาและความต้องการของประชาชนได้ดีกว่าเดิม
