ราชบุรี - เหตุยิงเจ้าของบ่อกุ้งดับญาติเชื่อเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะที่เพื่อนที่เลี้ยงบ่อกุ้งด้วยกัน เผยเจ้าบ่อกุ้งถูกฆ่าเสียชีวิตเป็นรายที่ 3 ตนเองหวั่นถูกลอบทำร้าย เป็นรายที่ 4 วอนเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินคดีและติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงนายแฉล้ม ผึ้งผัน อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/5 หมู่ 3 ต.โพหัก อ.ดำเนินสะดวก เจ้าของบ่อกุ้งจนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในเพิงพักกลางบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกราม หมู่ 6 ต.บัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค.66 ที่ผ่านมา
เนื่องจากถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ที่สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง โดยได้ทำการสอบปากคำทั้งญาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิตไปหลายปากแล้ว และในช่วงบ่ายวันนี้ (20 มี.ค.) จะมีการประชุมชุดคลี่คลายคดีเพื่อแบ่งสายการทำงานในการสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย
ส่วนที่วัดใหญ่โพหัก ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี นางสมพร ผึ้งผัน ภรรยาของผู้ตาย และนายชรินทร์ ผึ้งผัน บุตรชายของผู้ตาย ได้นำร่างไร้วิญญาณของนายแฉล้ม กลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของสถาบันนิติเวชราชบุรี ได้ทำการผ่าพิสูจน์หัวกระสุนแล้ว โดยทันทีที่ศพของนายแฉล้ม มาถึงญาติๆหลายคนถึงกับเป็นลมล้มพับด้วยความเสียใจ เพราะทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ตายเป็นคนดี ชอบทำบุญ ไม่น่าจะต้องมาตายแบบนี้
โดยนางสมพร ผึ้งผัน ภรรยาของผู้ตายบอกทั้งน้ำตาว่า ขณะนี้ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น เพราะเมื่อสามีตายแล้วก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ ขอให้หมดเวรหมดกรรมกัน ใครทำอะไรเดี๋ยวไว้ก็จะรับผลกรรมนั้น ส่วนที่มีคนบอกว่าน่าจะเป็นการมายิงผิดตัว เนื่องจากคนตายไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งในเรื่องที่ดิน ตนคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ แต่เนื่องจากสามีไม่ได้พูดอะไรให้ฟัง จึงไม่รู้ว่ามีสาเหตุอะไรถึงมายิงกันตาย
นายสมนึก ศรีอ่วม อายุ 67 ปี เพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า ที่ผ่านมามีปัญหากับนายหน้าซื้อขายที่ดินที่มาขอใช้พื้นที่ให้เป็นทางผ่านเข้าไปในบ่อกุ้งด้านใน ซึ่งบริเวณนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 14 ไร่ โดยเสนอเงินให้จำนวน 200,000 บาท และใช้เส้นทางนี้ตลอดไป แต่ตนเองนั้นไม่ให้ และมีการโทรศัพท์มาสอบถามหลายครั้ง และครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา โทร.มาพูดจาในลักษณะใช้เสียงแข็ง ซึ่งตนปฏิเสธไปอีก ซึ่งที่ดินบริเวณนี้เป็นคนละแปลงกับบ่อกุ้งที่เกิดที่อยู่ด้านใน ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนที่ดินบ่อกุ้งที่เกิดเหตุนั้นตนเป็นคนเช่ามาจากเจ้าของที่ดินโดยตรงเช่ามาหลายสิบปีแล้ว
โดยล่าสุดมีนายหน้าไปติดต่อกับเจ้าของที่ดินเพื่อจะขอเช่าปลูกมะพร้าวน้ำหอม โดยเสนอให้ไร่ละ 3,000-4,000 บาท และจะให้เงินใช้ฟรีอีก 100,000 บาท ซึ่งเจ้าของที่ดินมาบอกว่ามีคนจะมาเช่าต่อหากหมดสัญญาในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 แต่ตนบอกว่านายหน้าที่จะมาเช่านั้นให้เท่าไหร่ ตนจะให้เท่านั้น เพราะตนจะปลูกมะพร้าวเอง เพราะพื้นที่โดยรอบทั้งหมดนั้นปลูกมะพร้าวน้ำหอมหมดแล้ว เหลือแต่พื้นที่บริเวณที่เป็นบ่อกุ้งนั้นที่เป็นไข่แดงอยู่
โดยไม่ได้เกี่ยวกับคนตายเลย เพราะเป็นเรื่องที่ตนนั้นคุยกับทางเจ้าของที่ดินเอง ส่วนคนตายมาขอแบ่งเช่าที่ดินทำบ่อกุ้งจากตน หลังจากนั้นก็มาถูกยิงตาย ตนเสียใจมากเพราะเพื่อนไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร ซึ่งตนเองยังไม่รู้จะโดนยิงแบบเพื่อนอีกหรือไม่ อยากฝากไปถึงนายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลคุ้มครองคนดีๆ ให้เขาได้ประกอบอาชีพอยู่ด้วยความปลอดภัย ไม่ใช่อยากได้อะไรก็ได้ แต่พอไม่ได้ก็มาเอาชีวิตกัน และเชื่อว่าถ้าหากยังจับคนร้ายไม่ได้เชื่อว่าจะต้องมีรายต่อไป ที่ผ่านมา 2 ราย ที่มีปัญหาในเรื่องที่ดินยังจับใครไม่ได้ เพื่อนของตนเป็นรายที่ 3 แล้วไม่รู้ว่าจะจับคนร้ายได้ไหม ตนต้องระวังตัวแต่ไม่รู้ว่าจะระวังได้แค่ไหน เพราะคนระวังกับคนจ้องไม่รู้ว่าจะพลาดวันไหน
ด้าน พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี บอกว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ทำเกษตร ไม่ค่อยมีเหตุเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาทาง ภ.จว.ราชบุรี ให้ความสำคัญเพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ จึงต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานทำให้เรื่องนี้กระจ่าง โดยเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เบื้องต้น คืบหน้าไปพอสมควร ส่วนประเด็นที่ตั้งไว้มีทั้งหมด 4 ประเด็น คือ เรื่องชู้สาว เรื่องของการพนัน เรื่องของการเช่าที่ดิน และเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งทางตำรวจนั้นยังไม่ตัดประเด็นใด