เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เผยสถานการณ์ฝุ่นควันเชียงใหม่เริ่มคลี่คลาย ยืนยันควบคุมปัจจัยในพื้นที่ได้ดีเยี่ยม แต่เผชิญปัญหาเนื่องจากฝุ่นควันถูกพัดพาจากนอกพื้นที่เข้ามาสะสม ขณะเดียวกันแจงโพสต์ดอยหลวงเชียงดาวไร้ฝุ่นควัน แค่ตั้งใจสื่อสารข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ดีขึ้นไม่ใช่อวดอ้างผลงาน ยอมรับช่วงสัปดาห์ก่อนไปต่างประเทศ แต่ไปเพื่อศึกษาดูงานและปฏิบัติราชการ ไม่ได้ไปท่องเที่ยว
วันนี้ (14 มี.ค. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันอย่างต่อเนื่องแต่เจือจางเบาบางลงไปมากจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้วันนี้สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลที่เป็นตัวชี้วัดทางกายภาพได้อย่างรางๆ ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่วันนี้พบว่ายังสูงเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 56 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 46 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 46 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 52 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 30 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 70 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 114, 84, 84, 104, 35 และ 149 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ยกเว้นที่อำเภอเชียงดาวที่มีคุณภาพอากาศดี
ขณะที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าและคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่คลี่คลายลงและเชื่อว่าจะดีขึ้นตามลำดับ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาทางจังหวัดเชียงใหม่พร้อมทุกหน่วยงานและภาคส่วนได้ร่วมมือกันดำเนินทุกมาตรการอย่างจริงจังต่อเนื่องเพื่อป้องกันทำให้ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ เห็นได้ชัดเจนจากจำนวนจุดความร้อนจากการเผาของจังหวัดเชียงใหม่ที่น้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ และน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่มากกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่สามารถควบคุมการเผาได้เป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมาสถานการณ์ไม่ดีนั้นปัจจัยหลักเป็นเพราะฝุ่นควันจากนอกพื้นที่ที่ถูกพัดพาเข้ามาสะสม ซึ่งมั่นใจจังหวัดเชียงใหม่สามารถควบคุมปัจจัยในพื้นที่ได้ดีและเชื่อว่าจากนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ ยกเว้นมีปัจจัยจากนอกพื้นที่เท่านั้น
สำหรับประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีโพสต์ภาพดอยหลวงเชียงดาว รวมทั้งการแจ้งแต่ละอำเภอให้ถ่ายภาพท้องฟ้าสดใสและมองเห็นดอยต่างๆ เพื่อสื่อสารถึงสถานการณ์ฝุ่นควันที่คลี่คลายนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า การโพสต์ดังกล่าวเป็นการสื่อสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นควันว่าคลี่คลายแล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อให้ผู้คนเข้าใจสถานการณ์และปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง เพราะในช่วงที่สถานการณ์มีปัญหาพบว่ามีการเผยแพร่ภาพที่ทำให้ผู้คนรู้สึกกังวลใจอย่างกว้างขวาง ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจึงอยากสื่อสารให้ผู้คนได้รับรู้สถานการณ์ล่าสุดเช่นกัน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแอบอ้างว่าสถานการณ์ที่คลี่คลายลงเป็นผลงานของตัวเองแต่อย่างใด เพราะที่จริงแล้วเป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทุ่มเททำงานและคนเชียงใหม่ที่ร่วมมือกัน แต่เพื่อความสบายใจได้นำโพสต์ดังกล่าวออกจากบัญชีโซเชียลมีเดียแล้ว
ส่วนประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่คุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงว่า การถูกจัดอันดับเช่นนั้นเนื่องมาจากการจัดอันดับในเว็บไซต์ดังกล่าวพิจารณาเฉพาะเมืองหลัก ซึ่งประเทศไทยมี 2 เมือง คือ กรุงเทพฯ และเชียงใหม่เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วในประเทศไทยมีอีกหลายจังหวัดที่มีค่ามลพิษสูงกว่าเชียงใหม่มาก สำหรับประเด็นเดินทางไปต่างประเทศช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ยอมรับว่าเดินทางไปศึกษาดูงานประเทศในทวีปยุโรปแต่เป็นการไปปฏิบัติงานราชการเพื่อนำแบบอย่างที่ดีและความรู้มาพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้ไปท่องเที่ยวแต่อย่างใด
