พิษณุโลก - ผู้การตำรวจเมืองสองแควเร่งลงพื้นที่ “บ้านแยง นครไทย” จี้คดีลอบเผา/ยิงจุดรวบรวมยางพาราและที่ทำการ-บ้านพัก ปธ.กลุ่มเกษตรกรฯ 3 ครั้งซ้อน แถมกระสุนโดนร้านทองข้างเคียงซ้ำ หลังเกิดเหตุตั้งแต่ปลายมกราฯ-ต้นกุมภาฯ แต่คดีไม่คืบหน้า
วันนี้ (13 มี.ค. 66) พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.พิษณุโลก ได้เดินทางไปที่ สภ.บ้านแยง อ.นครไทย เพื่อติดตามคดีลอบเผา-ยิงจุดรวบรวมยางพาราและบ้านพักประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.บ้านแยง อ.นครไทย รวม 3 ครั้ง ซึ่งเกิดเหตุครั้งแรก 24 ม.ค. 66 ครั้งที่ 2 วันที่ 30 ม.ค. 66 และครั้งที่ 3 เกิดเหตุวันที่ 8 ก.พ. 66 แต่คดีไม่คืบ
โดยร่วมประชุมกับ ผกก.สภ.บ้านแยง พร้อมส่งตำรวจสืบสวนภูธร จว.พล.ลงพื้นที่สืบสวนจุดเกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง คือ บ้านพักของนายพรชัย แก้ววิชิต ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.บ้านแยง เลขที่ 556/3 หมู่ 1 ต.บ้านแยง ที่ถูกลอบยิง 3 นัด กระสุนโดนประตู 1 นัด ส่วนอีก 2 นัดพลาดไปโดนร้านทองซึ่งเป็นอาคารอยู่ติดกัน
จากนั้นเดินทางต่อไปยังสถานที่รวบรวมยางก้อนถ้วยและจุดรวบรวมน้ำยางสดของกลุ่มเกษตรกร เลขที่ 225 หมู่ 11 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กระสุนลูกปลาย 70 เม็ด และก่อนถูกยิงซ้ำด้วยปืนลูกซอง กระสุนทะลุประตูม้วนเป็นรู
ผบก.ภ.พิษณุโลกกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการและเร่งรัดให้จับกุมตัวผู้กระทำความผิดให้ได้เร็วที่สุด เพราะเหตุเกิดขึ้นต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง มีทั้งพยานบุคคล-วัตถุพยาน ก็เชื่อว่าจะจับคนร้ายได้ในอีกไม่นานนัก และได้สั่งการตำรวจ สภ.บ้านแยงดูแลความปลอดภัยของผู้เสียหาย คือ ประธานกลุ่มเกษตรกรฯ และสถานที่เกิดเหตุ
ส่วนแนวทางสืบสวนพุ่งเป้าไปประเด็นใดนั้น ผบก.ระบุว่า ตามข้อมูลที่รับ คือเรื่องของการรับซื้อขายยางพารา และความขัดแย้งในการก่อตั้งสถานที่ แต่ยังไม่ชัดเจน ยังไม่ระบุว่าผู้ใดกระทำความผิด ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุจุดรวบรวมยางพารา และที่ทำการหรือบ้านพักนั้น จนท.ตรวจสอบแล้วใช้อาวุธปืนคนละชนิดกัน ส่วนกล้องวงจรปิดนั้น จนท.ตำรวจใช้เป็นหลักฐาน สามารถเก็บภาพคนร้ายได้
ด้าน นายพรชัย แก้ววิชิต ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.บ้านแยง เปิดเผยว่า ใจชื้นที่ผู้การตำรวจพิษณุโลกลงมาติดตามคดีด้วยตนเอง แต่ประเด็นที่ติดใจคือ ที่ตั้งของสถานที่จุดรวบรวมยางพารา ซึ่งเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.นั้นเคยถูกร้องเรียน แต่ไม่ขอลงรายละเอียดที่ชัดเจนต้องให้ จนท.ตำรวจลงสืบสวนก่อน
