แม่ฮ่องสอน - วิกฤตหมอกควันคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนเข้าขั้นสาหัสจริง..คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดงเข้ม AQI ทะลุ 200 ไมโครกรัมฯ PM 2.5 ใกล้แตะ 200 ไมโครกรัมฯ แล้ว ขณะที่ “เมืองปาย” ยิ่งหนัก AQI ใกล้แตะ 300 ไมโครกรัมฯ มองพระอาทิตย์แทบไม่เห็นกันทั้งวัน
วันนี้ (12 มี.ค. 66) ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกอำเภอต้องเจอกับสภาพอากาศเลวร้ายสุดในรอบ 15 วัน เนื่องจากท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกควันที่ปกคลุมหนาแน่นจนมองแทบไม่เห็นดวงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน เฉพาะตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนั้นคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดงเข้ม AQI สูงถึง 289 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร PM 2.5 วัดค่าได้ 179 ไมโครกรัมฯ ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่เกิน 1 กิโลเมตร แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุด แต่ผู้คนต่างหลีกเลี่ยงออกจากบ้านเรือน
ขณะที่จังหวัดฯ แก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการให้รถน้ำแรงดันสูงของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ อบจ.แม่ฮ่องสอน ทหารและองค์กรปกครองในพื้นที่ เร่งระดมฉีดละอองน้ำบริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ หรือที่หน้าวัดจองคำ-จองกลาง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นบรรยากาศได้บ้างในระดับหนึ่ง ซึ่งจะดำเนินการวันละ 2 ครั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่ายของแต่ละวัน เน้นไปในจุดสำคัญ ย่านชุมชนหรือใจกลางเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น
แต่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและมีหมอกควันปกคลุมหนักที่สุด และถือเป็นสถิติสูงสุดของภาคเหนือก็คือ อำเภอปาย ระดับฝุ่นละอองในวันนี้สูงมากเป็นประวัติการณ์ คุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 297 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ PM 2.5 วัดค่าได้ 187 ไมโครกรัมฯ จนทางอำเภอปายต้องเตรียมห้องไว้รองรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจได้รับผลกระทบจากการสูดดมหมอกควัน โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ป่วยในระบบทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ
ปัจจัยหลักมาจากพบการลักลอบจุดไฟเผาป่าของราษฎรในหมู่บ้านที่อยู่โดยรอบตัวเมืองทั้งหาของป่า-ล่าสัตว์ แล้วมีไฟป่าลุกลามเข้าไปในเขตป่าไม้เบญจพรรณและป่าสมบูรณ์เขตอุทยานฯ ที่บางส่วนไม่สามารถควบคุมหรือเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือป่าเขาสูงชัน ถือเป็นปัญหาสำคัญอยู่ในขณะนี้