พิษณุโลก - “อุ๊งอิ๊ง” นำทีมแกนนำพรรคเพื่อไทย กราบสักการะ “หลวงพ่อพุทธชินราช” ก่อนลุยขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พิษณุโลก แต่เลขาฯ พรรคเกิดก้าวพลาดจังหวะลมตีผ้าแดงร่างร่วงเวที โชคดีไม่เจ็บมาก
วันนี้ (12 มี.ค. 66) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมคณะติดตามจำนวนหนึ่ง ออกเดินทางจากโรงแรมท๊อปแลนด์พลาซ่า มาถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) กราบสักการะหลวงพ่อพระพุทธชินราช ก่อนตระเวนหาเสียงในจังหวัดพิษณุโลก โดยมี น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 และคณะลูกนเรศวร คณะผู้บริหารเทศบาลนครพิษณุโลกให้การต้อนรับพร้อมมวลชนใส่เสื้อสีแดงรอยื่นมอบดอกกุหลาบแดง
จากนั้นคณะพรรคเพื่อไทยได้ออกเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัยในพื้นที่ อ.บางระกำ โดยมีนายสุธรรม แสงประทุม ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนผลงานและนโยบายพรรคเพื่อไทย ปราศรัยในช่วงแรกพร้อมแนะนำตัว น.ส.พิมพ์พิชชา (ชื่อเดิม ส.จ.ปานทิพย์) ชัยศุภกิจเจริญ ท่ามกลางประชาชนชาวอำเภอบางระกำและบางกระทุ่ม นั่งเก้าอี้ร่วมงานจำนวน 3,000 คนเศษ
โอกาสนี้ ได้มีการนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขต คือ น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท ว่าที่เขต 1, นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.เพื่อไทยพิษณุโลก, นายจเด็ศ จันทรา ว่าที่เขต 3, น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุกกิจเจริญ ว่าที่เขต 4 และ นายธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ ว่าที่เขต 5 ขึ้นโชว์ตัวบนเวที พร้อมกับคณะโดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เป็นพิธีกร
แต่เกิดเหตุผิดพลาดขึ้น ระหว่างแนะนำตัวแกนนำพรรค เมื่อถึงคิวของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ได้ก้าวไปหน้าเวที กลับก้าวขาเดินหน้าในจังหวะลมพัดผืนผ้าสีแดงที่คลุมหน้าเวทีจนปลิวขึ้นมาเสมือนเป็นพื้นเวที ทำให้เลขาฯ พรรคเพื่อไทยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพื้นเวที จนก้าวพลาดพลัดตกลงเวทีต่อหน้าประชาชนทั้ง 3,000 คน โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มาก สามารถกลับขึ้นเวทีปราศรัยได้ทันที
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตามหา ส.ส.เพื่อไทยคนใหม่ คือ ส.จ.ปานทิพย์ หรือ พิมพ์พิชชา โดยขอให้มั่นใจให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 5 เขต แม้มีข่าวว่าพรรคใหญ่ หาคะแนน 10 ล้านเสียงจ่ายให้หัวละ 500 บาท เพื่อให้ได้ ส.ส. 25 คน นี่คือสัญญาณอันตราย ถามว่าพี่น้องชาวบางระกำยอมหรือไม่
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเวทีขอเสียงชาวพิษณุโลกว่า การปฏิวัติหยุดประเทศเราไว้ พรรคเพื่อไทยกลับมารอบนี้ ถ้าเลือกทั้งคนทั้งพรรคจะทำระบบน้ำทั้งระบบ แก้ปัญหาน้ำท่วม จะทำให้ราคาพืชผลเกษตรให้ดีขึ้น และพักหนี้เกษตรกร จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า จะทำให้พิษณุโลกเป็นเมืองท่องเที่ยว
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า หนี้สินครึ่งหนึ่งของเกษตรกร เกิดจากวันนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ไม่มีผู้นำไปขยายตลาด ไม่มีนวัตกรรม ทำนาแทบตายต่อไร่ได้เงินเพียงหนึ่งพันกว่าบาท อยู่กันได้อย่างไร ไม่มีศักดิ์ศรี ถ้าพรรคเพื่อไทยได้บริหารประเทศเพียงพรรคเดียวจะทำให้ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว แต่วันนี้บังเอิญมี ส.ว.250 เสียงเป็นหนามขวางกั้น ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยจะต้องฟันฝ่าให้ได้ 310 เสียง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพื่อไทย คิดใหญ่ทำเป็น แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ มัวแต่หา ส.ส.ให้ได้เกิน 25 คน เพื่อเสนอชื่อ ประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นนายกฯ ไม่ยอมยุบสภา ห่วงแต่ตรวจราชการ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาคนไทยตกระกำลำบาก เอารถถังมายึดอำนาจประชาชน พอนั่งเป็นรัฐบาล กลับมีแต่นโยบายหลอกคน แต่ไม่เคยทำได้จริง พอมาวันนี้ จะให้โน่นนี่ ถามว่า..อยู่มาเป็นรัฐบาล 8 ปี ไม่เคยจะให้หรือ
ทั้งนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเดินทางรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านฟ้าไทยฟาร์ม ประกาศบนเวทีชัดเจนว่า ไม่จับมือกับบิ๊กป้อม หมายความว่าปิดทาง ไม่จับมือแน่นอนเลยหรือไม่ หมอชลน่านระบุว่า เป้าหมายเพื่อไทยต้องการแลนด์สไลด์ 310 เสียง ก็ไม่จำเป็น เราต้องดูผลเลือกตั้งก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ลงพื้นที่วันนี้มั่นใจแค่ไหน จะกวาด ส.ส.พิษณุโลกยกทั้งจังหวัดได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บอกว่า รอบนี้ทำนโยบายเพื่อประชาชน ก็ขอให้มั่นใจ โดยเฉพาะพื้นที่เขต 4 พิษณุโลก ที่ ส.ส.ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวถามถึง นายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมืองเป็นอย่างไรบ้าง นายเศรษฐาบอกว่า ตื่นเต้น ประชาชนต้อนรับดี ดีใจและซาบซึ้งใจที่ หัวหน้า น.ส.แพทองธาร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อเป็นแรงบันดาลใจ
จากนั้นทีมงานพรรคเพื่อไทยออกเดินทางไปรับประทานอาหาร พร้อมพบปะแกนนำนักศึกษาในจังหวัดพิษณุโลก ณ ร้านกาแฟ พูดคุยประเด็นคนรุ่นใหม่กับการเมือง ก่อนเตรียมขึ้นเวทีปราศรัย ช่วง 17.00-18.30 น. ณ.สวนกลางเมืองพิษณุโลก เย็นวันเดียวกันนี้