ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เมียและลูกชาย “ลุงบุญชู” ผีน้อยชาวขอนแก่นวัย 67 ปีที่แอบทำงานในฟาร์มหมูในแดนกิมจินานกว่า 10 ปี เตรียมบินไปเกาหลีเพื่อนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเผาศพแล้วจะนำเถ้ากระดูกกลับมาทำบุญที่บ้านเกิดอำเภอแวงน้อย เผยสามีตั้งใจกลับไทย 20 มี.ค.นี้ แต่โชคร้ายเสียชีวิตกะทันหัน
ข่าวการเสียชีวิตของผีน้อยชาวไทย นายบุญชู ประวะเสนัง อายุ 67 ปี แรงงานไทยชาวอำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น ที่ไปรับจ้างทำงานในฟาร์มหมูแห่งหนึ่งในเมืองโพชอน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ ด้วยปัญหาสุขภาพทำให้นายบุญชูเสียชีวิต แต่เจ้าของฟาร์มกลัวความผิดจ้างแรงงานเถื่อนได้นำศพไปทิ้งบนเขากระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมเจ้าของฟาร์มแห่งนี้ได้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 101 บ้านทางขวาง ม.11 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ได้พูดคุยกับนางมะลิ ประวะเสนัง อายุ 59 ปี เมียของนายบุญชู แรงงานไทยผู้โชคร้าย
นางมะลิบอกว่าก่อนจะได้รับแจ้งว่านายบุญชูเสียชีวิตนั้น ตนติดต่อนายบุญชูไม่ได้นานหลายวัน จึงประสานคนไทยในประเทศเกาหลีให้ไปตรวจสอบที่ฟาร์มที่นายบุญชูทำงานอยู่ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ จนพบศพนายบุญชูที่เชิงเขาใกล้ฟาร์ม และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายคิม อายุ 60 ปี เจ้าของฟาร์มไปสอบสวน จนทราบว่านายคิมไปพบนายบุญชูนอนเสียชีวิตในที่พัก กลัวความผิด จึงนำศพใส่รถไถไปทิ้งที่เชิงเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทิ้งศพ
นางมะลิเล่าว่า สามีไปขายแรงงานที่ประเทศเกาหลีนานกว่า 10 ปีแล้ว ครอบครัวฐานะยากจน เขาต้องการทำงานหาเงินมาใช้หนี้ และสร้างฐานะให้ลูกเมียอยู่ดีกินดี นายบุญชูเดินทางไปเกาหลีแบบนักท่องเที่ยว แต่แอบหนีไปหางานทำ เป็นผีน้อยรับจ้างในฟาร์มหมูแห่งนี้มาตลอด แต่ละวันสามีจะโทรศัพท์มาคุยด้วยเป็นประจำ ถึงสิ้นเดือนก็จะส่งเงินมาให้ใช้หนี้และส่งเสียลูกชายเรียน ตอนนี้ลูกชายเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งลูกชายช่วยพ่อหาเงินใช้หนี้จนหมดแล้ว
“หลังใช้หนี้หมดตั้งแต่ 3 ปีก่อน ลูกชายก็ได้ขอร้องให้พ่อกลับมาอยู่บ้าน หาอยู่หากินสบายๆ ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ลูกชายมีงานทำจะรับผิดชอบดูแลพ่อแม่เอง แต่พ่อเขาไม่ยอมกลับ บอกว่าต้องการหาเงินสักก้อนเอาไว้สร้างบ้าน ซื้อวัว ควาย และหมูมาเลี้ยงเพิ่ม” นางมะลิเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ และบอกอีกว่า
แต่ละเดือนที่สามีส่งเงินมาก็จะซื้อวัว ควายและหมูมาเลี้ยง ล่าสุดนายบุญชูบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านวันที่ 20 มีนาคมที่จะถึงนี้ ก่อนที่สามีจะเดินทางกลับ ทางบ้านได้สร้างฟาร์มหมู วัว ควาย ไว้รอเรียบร้อยแล้ว นายบุญชูถูกใจชื่นชอบควายเพศเมียที่ชื่อพลอยชมพูมาก ทุกครั้งที่โทรศัพท์มาจะต้องขอดูควายตัวนี้ ตอนนี้พลอยชมพูท้องแก่ ใกล้คลอดแล้ว
นางมะลิบอกว่าโทรศัพท์คุยกับสามีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันรุ่งขึ้น 1 มีนาคม ได้โทร.หาสามีอีก แต่กลับติดต่อไม่ได้ หลังจากนั้นอีกวันก็ติดต่อไม่ได้ ผิดวิสัยเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละครั้งที่โทร.ไปแม้ไม่รับสายทันทีก็จะโทร.กลับมาคุยกันตลอด เมื่อติดต่อสามีไม่ได้ ก็เป็นห่วงว่าจะเป็นอะไรไป จึงติดต่อคนไทยที่รู้จักกันในเกาหลีให้ช่วยไปดู จนได้รู้ว่าสามีเสียชีวิตแล้ว และตำรวจก็จับเจ้าของฟาร์มไปดำเนินคดีแล้ว
“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือครอบครัวของฉันบ้าง ก็รู้อยู่ว่าสามีเป็นผีน้อย เป็นแรงงานที่แอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย แต่มันจำเป็นต้องทำเพราะต้องการหาเงินมาใช้หนี้ มาเลี้ยงดูครอบครัว”
นางมะลิเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุและมีข่าวสามีเสียชีวิต ก็มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศติดต่อมาพูดคุย สอบถามถึงความต้องการของครอบครัว จึงแจ้งไปว่าเป็นไปได้อยากได้ศพสามีกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย เจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณ 11 ล้านวอน หรือประมานสามแสนกว่าบาทไทย แต่ครอบครัวเราไม่มีเงิน จึงคุยกันในครอบครัวว่าวันที่ 11 มีนาคมที่จะถึงนี้ตนและลูกชายจะเดินทางไปที่เกาหลี เพื่อนิมนต์พระสงฆ์ไทยประกอบพิธีทางศาสนา เผาศพสามีให้เสร็จสิ้น จากนั้นจึงนำเถ้ากระดูกกลับมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่บ้าน
ส่วนเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เบื้องต้นทางอำเภอแวงน้อยและผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบเงินให้มาแล้วจำนวน 20,000 บาท จะนำเงินก้อนนี้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินไปประเทศเกาหลีในวันที่ 11 มีนาคมนี้