ลำปาง - เรื่องถึงโรงพักทุ่งฝาย..แม่โพสต์คลิปภาพว่อนโซเชียลฯ สาววัย 15 บรรเลงเพลงเตะ-ต่อย ลูกชายวัย 11 ขวบเลือดกลบปาก-ไหลอาบหน้า แถมญาติคอยถ่ายคลิปทุกช็อต
กรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมข้อความว่า..มาเยือนจนได้ เก่งมาจากไหน มาตีลูกกูแบบนี้ ตีคนไม่มีทางสู้ มันหลายครั้งแล้วล่ะ อย่าให้ได้เจอมึงนะอีเตย ลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยละ..
ต่อมาผู้คนโลกโซเชียลได้แชร์คลิปขณะเกิดเหตุ ที่ปรากฏภาพเห็นหญิงผู้ก่อเหตุขี่ จยย.มาหาเด็กชายคนดังกล่าว เมื่อมาถึงก็ทั้งเตะ ต่อย ขณะที่เด็กชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้ตอบโต้ได้แต่เอามือกันไว้ โดยสาวผู้ก่อเหตุยังถามว่า..ให้กล้วยใส่เขาทำไม..มีคลิปอยู่นะจะดูไหม
ซึ่งเด็กชายคนดังกล่าวก็พยายามอธิบายว่าเพื่อนสั่งให้พูดแล้วก็อัดคลิปไป ไม่รู้ว่าเพื่อนส่งไปให้ใคร ก่อนที่สาวรายดังกล่าวจะย้อนถามว่าเขาไปทำอะไรให้ ก่อนหน้าก็เอาอะไรใส่น้ำมาให้กินรอบนี้ยังพูดในลักษณะให้กล้วยอีก เป็นเพื่อนเล่นมึงหรือก่อนที่จะกระหน่ำทั้งเตะและต่อยอีก รวมทั้งใช้เท้าเตะไปที่ใบหน้าของเด็กจนเลือดออกจากปากออกจมูก และเด็กชายก็ร้องไห้ออกมา พร้อมบอกว่า..จะไปฟ้องปู่แล้วก็ปั่นจักรยานออกไปท่ามกลางเพื่อนบอกให้ไปล้างเลือดออกก่อน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามแม่ของเด็กชายคนที่อยู่ในคลิป ซึ่งเปิดเผยว่าลูกชายของตนเองอายุ 11 ขวบ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 15 ปี ส่วนคนถ่ายคลิปก็อายุไล่เลี่ยกับผู้ก่อเหตุและยังเป็นญาติของผู้ก่อเหตุอีกด้วย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ของวันที่ 8 มี.ค. 66 บริเวณศูนย์เด็กเล็กเก่า หมู่ 5 ต.ทุ่งฝาย อ.เมืองลำปาง หลังเกิดเหตุลูกชายได้ร้องไห้มาหาตนเองในสภาพเลือดกลบหน้าและบอกว่าถูกคนที่ชื่อเตยตี ตนโมโหจึงไปตามหาคนชื่อเตยแต่ก็ไม่พบจึงไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ทุ่งฝาย
จากการสอบถามลูกชาย เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา คนที่ตีเคยเข้าใจผิดว่าลูกตนเอาน้ำมันมวยใส่น้ำให้เขาดื่ม กระทั่งวันนี้ก่อนเกิดเหตุคนถ่ายคลิปได้ให้ลูกชายตนเองพูดคำหยาบ หรือพูดในลักษณะให้กล้วยแล้วเขาก็อัดคลิปส่งให้คนชื่อเตย ต่อมาคนชื่อเตยก็ขี่รถ จยย.มาแล้วก็เข้าทำร้ายลูกชายตนตามในคลิปดังกล่าว
เมื่อถามคนอัดคลิปทำไมไม่ห้ามเขาก็ตอบว่าเขาไม่กล้าห้าม ซึ่งตนเองมองว่าการกระทำแบบนี้มันรุนแรงเกินไปหากใครเป็นพ่อเป็นแม่เมื่อเห็นคลิปแบบนี้ก็คงทำใจได้ยาก และเมื่อต้นเดือน ก.พ. 66 ที่ผ่านมาลูกก็ถูกผู้หญิงคนนี้ตีมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นไม่หนักเท่าครั้งนี้จึงนำเรื่องไปโพสต์ในเฟชบุ๊ก