นครสวรรค์ – เฒ่าวัย 60 เศษ มือแทงเมียเก่าร่างพรุนดับสยองคาร้านพวงหรีดฯท่าตะโก ก่อนเดินลัดทุ่งหนีกบดานในป่าไพศาลี ข้ามคืน..โผล่มอบตัวแล้วในสภาพเลือดแห้งกรังติดตัว บอกแค้นขอคืนดีไม่สำเร็จแถมโดนเย้ยมีผัวใหม่แล้ว-ลูกอ้างพ่อถูกหลอกกู้เงินเป็นหนี้หลายแสน
ความคืบกรณีนายจรัส อ่อนนวล อายุ 61 ปี ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง น.ส.สำอางค์ แป้นจั่น อายุ 38 ปี อดีตภรรยา ที่ทำงานเป็นลูกจ้างร้านรับทำพวงหรีด “ต่อดอกไม้” เสียชีวิตคาร้านฯบริเวณริมถนนเส้นทางสายท่าตะโก-นครสวรรค์ เขตเทศบาลท่าตะโก อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เมื่อ 3 มี.ค.66 ที่ผ่านมา เนื่องจากตามง้อขอคืนดีอดีตภรรยาไม่สำเร็จ ก่อนหลบหนีไปได้ ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าตะโก ตำรวจสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ จัดชุดไล่ล่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดเช้าวันนี้ (4 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจรัส อ่อนนวล ผู้ต้องหาที่อยู่ในสภาพอิดโรย มือด้านซ้ายมีรอยมีดได้รับบาดเจ็บ สภาพร่างกายมีรอยเลือดแห้งกรัง ได้ขอมอบตัวกับตำรวจสายตรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณตู้ยามตำรวจสี่แยกไดตาล ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี ซึ่งตอนแรกเห็นแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ตกใจไม่คิดว่าจะมีผู้ต้องหาเดินทางพบตำรวจ ก่อนนำตัวส่งร้อยเวรบันทึกประจำวัน ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะโก ทันที
ซึ่ง พ.ต.ท.วุฒิ คงชื่น รอง ผกก.สืบสวน สภ.ท่าตะโก ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนร่วมพนักงานสอบสวน เบื้องต้นนายจรัสรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือแทงนางสาวสำอางค์ เนื่องจากแค้นที่มาขอคืนดีแล้วยังถูกปฏิสธ แถมถูกเย้ยว่ามีผัวใหม่แล้ว จึงโมโหลงมือทำร้ายร่างกายและแทงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุก็เดินเท้าลัดเลาะทุ่งนาตำบลทำนบ อ.ท่าตะโก ไปหลบในป่าเขต อ.ไพศาลี ก่อนจะออกมามอบตัว
พ.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาพยายามมอบตัวกับตำรวจ แต่ไม่มีโอกาสเพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินทางพบตำรวจสายตรวจ ตู้ยามตำรวจบริเวณสี่แยกไดตาล ท้องที่ สภ.ไพศาลี เพื่อขอมอบตัว ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะโก แล้ว
ต่อมาเวลา 10.00 น.พนักงานสอบสวนฯจึงนำตัวนายจรัสไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกำลังตำรวจสายตรวจ อพปร.คุมเข้มป้องกันญาติผู้ตายจะทำร้ายได้ ซึ่งจุดแรกเจ้าหน้าที่ได้ให้นายจรัส ชี้จุดลงรถหน้าร้านขายพวงหรีด ก่อนเดินไปหาผู้ตายแล้วจูงมือมาคุยหน้าร้าน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ผู้ตายต่อว่าและยืนยันว่า..ไม่ขอคืนดี ประกาศมีผัวใหม่แล้ว ทำให้นายจรัส โมโหสุดขีดชักปืนพกออกมาหวังยิงแสกหน้า แต่ว่าผู้ตายแย่งปืนไปได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นายจรัส ผู้ต้องหา ทำแผนฯหลังผู้ตายแย่งปืนและเข้าร้านไป นายจรัสจึงเดินตามเข้าไปในร้านแล้วเกิดมีปากเสียงอีกรอบ ก่อนที่นายจรัสจะชักมีดไม่แทงผู้ตายจำนวน 15 แผลเสียชีวิตคาร้าน หลังลงมือแล้วก็เดินออกไปหลังร้านปีนกำแพงหนีไปตามทุ่งนาตำบลทำนบ เดินเท้าไปกบดานในป่าเขต อ.ไพศาลี
ซึ่งนายจรัส ระบุว่า ระหว่างหลบหนีเห็นโดรนตำรวจไล่ตามตลอดเวลา ก็พยายามโบกมือเพื่อขอมอบตัว แต่โดรนไม่เห็นจึงหนีไปอยู่ในป่า 1 คืน แต่ว่ามือซ้ายถูกมีดบาดได้รับบาดเจ็บจึงตัดสินใจออกมามอบตัวดังกล่าว
ด้านนายจรัส เปิดเผยสั้นๆหลังทำแผนฯว่า สาเหตุหลักที่ลงมือแทงอดีตภรรยาเนื่องจากโกรธที่มาขอคืนดีไม่สำเร็จ และแค้นที่ผู้ตายมีสามีใหม่ทั้งที่ยังมีทะเบียนสมรสกับตนเองอยู่ ซึ่งพยายามขอมอบตัวตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ติดต่อตำรวจไม่ได้ เช้าวันนี้จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจตู้ยามสี่แยกไดตาล อ.ไพศาลี
ด้านนางสาว บี (นามสมมติ) ลูกสาวผู้ต้องหา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการพูดคุยกับพ่อ ได้ความว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่านางสำอางค์ แม่เลี้ยง ที่อยู่กินจดทะเบียนกันมานานกว่า 10 ปี เพราะว่าแค้นที่ถูกหลอกให้ไปกู้เงินเป็นหนี้สินหลายแสนบาท และสุดท้ายมาขอเลิกราและยังเย้ยว่ามีผัวใหม่แล้ว ทำให้พ่อแค้นที่ถูกหลอกให้เป็นหนีสิน พอมาขอคืนดียังถูกเย้ยไม่กลับไปคืนดีด้วยและบอกว่ามีสามีใหม่แล้ว
“พ่อและน้าสำอางค์จดทะเบียนอยู่กินกันนาน 8 ปีแล้ว เมื่อก่อนพ่อไม่เป็นหนี้สินอะไร แต่น้าสำอางค์ แม่เลี้ยงให้พ่อไปกู้เงิน ธกส.เป็นหนี้สินหลายแสนบาท ระยะหลังทั้งสองคนมีปากเสียงกันบ่อย และแม่เลี้ยงก็หนีออกจากบ้าน พ่อพยายามขอคืนดีหลายครั้ง แต่ว่าแม่เลี้ยงก็ส่งคลิป ส่งไลน์ ท้าทายกันหลายครั้ง ส่งคลิปผัวใหม่มาท้าทายด้วย นำมาซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นหน้าที่ของตำรวจต้องส่งเข้ากระบวนการยุติธรรมต่อไปไม่ติดใจอะไร”
ลูกสาวผู้ตายกล่าวอีกว่าวันนี้มาเยี่ยมพ่อที่ สภ.ท่าตะโก ได้นำเอาหัวหมู ไก่ต้ม เหลาขาว มาแก้บนบริเวณหน้าห้องสืบสวน ข้างๆ สภ.ท่าตะโก เพราะว่าเมื่อวานพอทราบข่าวว่าพ่อเป็นผู้ต้องหา จึงบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าขอไม่ให้พ่อถูกตำรวจจับตายจะนำหัวหมูมาแก้บน วันนี้จึงนำหัวหมูมาแก้บนด้วย