พิจิตร – ศรัทธาชาวพิจิตรหลายพื้นที่ ตลอดจนคณะสงฆ์..ร่วมให้กำลังใจเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง-เจ้าคณะ จว.พิจิตร หลังถูกกลุ่มคนตั้งขบวนรถติดป้ายกล่าวหามั่วสีกา-เงินบริจาค มจร.แห่ทั่วเมือง ทนายชี้เป้าคนเคลื่อนไหวล้วนเคยต้านการเปลี่ยนแปลงวัดหลวงพ่อเงินฯทั้งสิ้น
พระสงฆ์และศรัทธาชาวพิจิตร ได้ออกมาร่วมให้กำลังใจพระราชสิทธิเวที รศ.ดร.เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง จ.พิจิตร
หลังจากมีกลุ่มมวลชน ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยเคลื่อนไหวต่อต้านการเปลี่ยนแปลงภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้ติดป้ายข้างรถมีข้อความกล่าวร้ายป้ายสีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องเกี่ยวกับสีกาและเรื่องเงินบริจาคในการสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ หรือ มจร.พิจิตร แห่วนรอบตลาดเมืองพิจิตร รวมถึงหน้าวัดท่าหลวง-ผ่านถนนหน้าศาลากลางพิจิตร และ มจร.พิจิตร เมื่อ 2 มี.ค.66 ที่ผ่านมา
นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯพิจิตร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ก็รู้สึกแปลกใจและสงสัยในพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง เพราะไม่ได้มายื่นหนังสือหรือแสดงหลักฐาน ว่าเจ้าอาวาสฯ-เจ้าคณะจังหวัดประพฤติปฏิบัติตนไม่ชอบในเรื่องใด รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับเงินบริจาคและเงินก่อสร้างมหาวิทยาลัยสงฆ์ หรือ มจร.พิจิตร ซึ่งก็ต้องถือว่าเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ
ดังนั้นการตรวจสอบเรื่องการเงินเท่าที่รู้ผู้ว่าฯพิจิตร รวมทั้ง สตง.พิจิตร-ป.ป.ช.พิจิตร ก็เคยได้รับเรื่องร้องเรียนและก็เคยเข้าไปตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีรายงานความผิดปกติในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
นายเพ็ญ จุลพันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 5 ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร หนึ่งในชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมถวายกำลังใจให้กับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หรือวัดหิรัญญาราม ที่มาถวายกำลังใจเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง เพราะเดือดเนื้อร้อนใจที่มีคนอ้างตัวเป็นชาว ต.บางคลาน มอบหมายให้ทำหน้าที่แทนในการมากล่าวร้ายป้ายสีท่านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และให้ร้ายรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน
ดังนั้นถ้ามีหลักฐานก็อยากให้เปิดเผยออกมาจะได้พิสูจน์กันให้ชัดๆว่าใครผิดใครถูกกันแน่ วันนี้ด้วยความศรัทธาท่านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร จึงได้รวมตัวกันเดินทางมาถวายกำลังใจให้กับท่านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเพื่อยืนยันว่าท่านเป็นพระผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตรให้สัมภาษณ์ว่า กรณีบุคคลมีพฤติกรรมให้ร้ายคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตรนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าวจริง
ซึ่งดูจากข้อเรียกร้อง 3-4 ข้อนั้น มันสามารถพิสูจน์ได้ตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ทุกข้อกล่าวหา ในฐานะทนายความของคณะสงฆ์ก็อยากเรียกร้องให้กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวยื่นเรื่องเข้าสู่ตามระบบขั้นตอนกฎหมาย แต่การที่นำรถแห่ติดป้ายมาประจานกันเช่นนี้ เป็นการกระทำที่เกินขอบเขตของความพอดีหรือความจำเป็น
“ขอร้องว่าอย่าทำอะไรที่เกินเลย หรือไปดูหมิ่นคนอื่นมันจะทำให้เค้าเดือดร้อนไม่ใช่เอาความเท็จมาพูด พอเรื่องถึงศาลรับสารภาพแล้วยกมือไหว้ก้มกราบขอโทษ ขออโหสิกรรม และยอมจ่ายค่าเสียหาย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง”
นายกิจชัย ยังให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า เหตุที่มีการจัดขบวนรถแห่ป้ายประจานเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ขับรถวนรอบตลาดเมืองพิจิตรนั้น น่าจะสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่11 ม.ค.66 ได้มีหนังสือจากผู้ว่าฯพิจิตร มาถึงเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เรื่องที่จะให้ดำเนินการกับสรีระสังขารของอดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และเรื่องการที่ถึงเวลาที่สมควรที่ควรจะแต่งตั้งให้มีเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้แล้ว
ซึ่งทางจังหวัดเสนอความคิดเห็นว่า พระครูพิสุทธิวรากร เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ซึ่งท่านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรจึงได้ดำเนินการสั่งการไปตามลำดับขั้นตอนให้ดำเนินการตามระบบการสรรหาเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานดังกล่าว
“มูลเหตุกรณีม็อบรถแห่ป้าย แห่โลงศพ น่าจะเกิดจากการที่จะมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน โดยจะเห็นได้ว่าพวกที่มาชุมนุมก็เป็นพวกคนหน้าเดิมๆที่เป็นคู่อริกับวัดหลวงพ่อเงินบางคลานนั่นเอง เป้าหมายคงไม่ใช่เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เพราะเหตุที่เกิดขึ้นถ้าจะเล่นงาน เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ก็ควรที่จะเป็นเรื่องมาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งจะมาก่อเรื่องก่อเหตุในช่วงที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มที่จะมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน นี้ด้วย”