ระยอง - ส.ท.ระยองร้องสื่อ ถูกเพื่อนบ้านโหดยกพวกบุกยิงหลังทะเลาะกันเรื่องสุนัข โชคดีปัดมือทันทำกระสุนลั่นทะลุหลังคาแต่ไม่วายถูกใช้ปืนตีศีรษะเลือดอาบ แจ้งตำรวจให้ช่วยดำเนินกลับตั้งข้อหากลุ่มเพื่อนบ้านที่มีจำนวน 4 คน เพียงแค่ทำร้ายร่างกาย จนหวั่นว่าจะเกิดอันตราย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (3 มี.ค.) นายบุญเชิด เอกาบูรณ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลนิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังถูกคนร้ายจำนวน 4 คน บุกใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะจนเกิดการต่อสู้ทำให้กระสุนปืนเฉียดศีรษะทะลุหลังคา ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะใช้ปืนฟาดเข้าที่ศีรษะจนแตกเย็บ 4 เข็ม
ไม่เพียงเท่านั้นคนร้ายยังได้ใช้ปืนจ่อศีรษะบุตรสาวที่วิ่งเข้ามาช่วย ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.บุรินทร์ ชนะ ร้อยเวร สภ.นิคมพัฒนา แต่กลับมีการแจ้งข้อหาต่อกลุ่มคนร้ายแค่ทำร้ายร่างกายก่อนจะปล่อยตัวไป จึงทำให้เกรงว่าตนเองและครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย
อีกทั้งยังติดใจกับข้อหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง เพราะในความจริงเชื่อว่าน่าจะเป็นการพยายามฆ่า
นายบุญเชิด ยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงที่ตนได้พักผ่อนอยู่ภายในอู่ซ่อมรถเลขที่ 331/2 ริม ถ.นิคมพัฒนา-สาย 36 ม.2 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ซึ่ง 1 ใน 4 ของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านของบุตรสาวที่เคยมีปัญหากันเรื่องสุนัขจนเกิดการทะเลาะกัน จนตนต้องโทรศัพท์ไปไกล่เกลี่ย
“ในวันนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนเข้ามาในอู่แล้วมาเคาะประตูเรียกให้ออกไปเคลียร์ปัญหา เมื่อเดินออกไปก็ถูกชกเข้าที่ใบหน้า ก่อนที่คนร้ายอีกคนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมาจ่อจึงตัดสินใจวิ่งเข้าใส่แล้วปัดปืนขึ้นจึงทำให้กระสุนทะลุหลังคา ก่อนจะถูกปืนตีศีรษะจนเลือดอาบและเป็นจังหวะที่บุตรสาววิ่งออกมากระโดดถีบจนคนร้ายที่ถือปืนล้มลง พอคนร้ายลุกขึ้นมาได้ใช้ปืนจ่อมาที่บุตรสาวแต่โชคดีที่บุตรสาวยังมีสติตะโกนบอกว่ามีกล้องวงจรปิดคนร้ายจึงหยุดแล้วรีบหนีออกไป”
และยังบอกอีกว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว 1 ใน 4 คนร้ายเข้ามาสอบสวน และแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว แต่ตนยังติดใจในการกระทำและพยานหลักฐานที่สมควรจะเป็นการพยายามฆ่า จนทำให้ไม่กล้าเปิดร้าน เพราะเกรงว่าคนร้ายที่เหลือจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดี ส่วนการแจ้งข้อหาขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่จะต้องรวบรวมเพิ่มเติม