ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายกเมืองพัทยาชี้เจ้าของร้าน “เดอะนัชชา ผับ พัทยา” เพลิงไหม้ 3 รอบในปี 64 ไม่มีสิทธิต่อเติมหรือปรับปรุงอาคารเพื่อเปิดใช้ใหม่ เหตุมีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินถูกต้องเพียงบางส่วน ที่เหลือเข้าข่ายอาคาร 101 รายรุกล้ำชายทะเล และต้องรื้อถอนตามมติ ครม.ปี 2541
จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้สถานบันเทิง "เดอะ นัชชา ผับ พัทยา" ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 47/1 ภายในโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้ หรือ วอล์กกิ้งสตรีทพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2564 จนทำให้ทรัพย์สินภายในร้านถูกไฟเผาวอดเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท
และหลังเกิดเหตุ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา (ในขณะนั้น) ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอาคารพร้อมสั่งให้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบของอาคารสูง 3 ชั้น กินเนื้อที่รวม 7 คูหา ก่อนลงนามคำสั่งห้ามใช้อาคารเนื่องจากเพลิงได้เผาไหม้จนเสียหายอย่างหนัก
รวมทั้งยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอาคารเพื่อประเมินความปลอดภัยว่าจะต้องรื้อถอนออกหรือไม่ และเสนอเรื่องให้ระงับการใช้อาคารเป็นการชั่วคราว ซึ่งภายหลังเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ และโครงสร้างอาคารแล้วเสร็จ การที่ผู้ประกอบการจะเข้ามาทำการก่อสร้างหรือซ่อมแซมตัวอาคารเพื่อให้เปิดใช้ใหม่จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบที่ดินที่จะเข้าปรับปรุงว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่
เนื่องจากอาคารในพื้นที่โครงการวอล์กกิ้งสตรีท เป็นอาคารที่ ครม.เคยลงมติเมื่อปี 2541 เรื่องอาคาร 101 ราย ที่รุกล้ำชายทะเล และมีคำสั่งให้ทำการรื้อถอนอาคารทั้งหมดออกจากพื้นที่นั้น
วันนี้ (24 ก.พ.) นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินของร้าน “เดอะนัชชา ผับ พัทยา” ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ว่า มีเพียงพื้นที่บางส่วนที่มีโฉนดครอบครองเท่านั้น ขณะที่พื้นที่ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นพื้นที่ผืนใหญ่เข้าข่ายตามมติ ครม.ที่ระบุว่าเป็นอาคารรุกล้ำ
เมืองพัทยาจึงไม่สามารถอนุญาตให้ผู้ประกอบการซ่อมแซม ต่อเติม หรือปลูกสร้างอาคารขึ้นใหม่ได้
"ในยุคที่นายสนธยา คุณปลื้ม เป็นนายกเมืองพัทยา ได้มีการออกคำสั่งให้ระงับการใช้อาคารดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งทางร้านได้นำแผ่นสังกะสีมาปิดกั้นด้านหน้าทั้งหมด แต่ภายในกลับพบว่ามีการก่อสร้างซ่อมแซมร้าน ทำให้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยาคนปัจจุบันได้ลงนามออกหมายคำสั่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ให้ระงับการก่อสร้างและใช้อาคาร แต่ยังพบว่าอาคารดังกล่าวกลับมีการต่อเติมมากขึ้นกว่าเดิมอีก"
และล่าสุด เมืองพัทยาได้มอบหมายให้ฝ่ายนิติกรเข้าแจ้งดำเนินคดีต่อผู้ประกอบการรายดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา
นายมาโนช ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้มีการประสานเมืองพัทยา เพื่อขอพื้นที่เปิดทางเท้าเพื่อทำการติดตั้งตู้ไฟสำหรับจ่ายกระแสไฟให้ร้านที่ทำการปรับปรุง แต่เมืองพัทยาไม่สามารถอนุญาตให้ดำเนินการได้ เนื่องจากร้านแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
"หลังจากนี้หากพบว่าผู้ประกอบการรายดังกล่าวยังดื้อแพ่งกระทำที่ฝ่าฝืนคำสั่งเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที" นายมาโนช รองนายกเมืองพัทยา กล่าว
