xs
xsm
sm
md
lg

ประกันสังคมแจงเรียกหัวคิวพม่า 40% เหตุเรือน้ำมันระเบิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - ประกันสังคมแจงเรียกหัวคิวพม่า 40% เหตุเรือน้ำมันระเบิด แลกเดินเรื่องเงินชดเชย 8 แสนบาทไม่เป็นความจริง

วันที่ (21 ก.พ) นางนงลักษณ์ กอวรกุล ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ได้ลงพื้นที่พร้อมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน พบญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือน้ำมันระเบิดและได้เกิดไฟลุกไหม้บริเวณท่าเรือรวมมิตรด็อคยาร์ค แม่น้ำแม่กลอง หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 17 มกราคม 66 เหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็นแรงงานชาวพม้า 7 ราย และคนไทยเป็นหัวหน้าคนงาน 1 ราย เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและตรวจสอบข้อเท็จริงกรณีเงินชดเชย

นางนงลักษณ์ กล่าวว่า เนื่องจากได้มี “เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” ได้ลงเรื่องการเรียกหัวคิวพม่า 40% แลกกับการเดินเรื่องกับสถานทูตเพื่อให้ได้เงินชดเชยกรณีเรือบรรทุกน้ำมัน นอกจากนี้ ยังระบุว่าหลังเกิดเหตุได้ 2 วัน สนง.ประกันสังคม จ.สมุทรสาครได้ลงพื้นที่มอบเงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิต โดยแต่ละคนจะได้รับเงินคนละ 8 แสนกว่าบาท แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ค่าจัดการศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีตาย 770,952 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงานแต่ละคน ส่วนใหญ่จะได้เงินระหว่าง 820,984 ถึง 830,704 บาท แต่ในวันที่ไปมอบถ่ายรูปคู่กับป้ายได้คนละประมาณ 8 แสนบาทเสร็จเรียบร้อย แต่ได้เงินจริงแค่ค่าทำศพ 50,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือยังไม่ได้ 

เพจดังกล่าวยังอ้างด้วยว่า ต่อมา มีสายโทร.เข้ามาหาญาติๆ ผู้เสียชีวิตทุกคน (แต่ไม่ระบุว่าเป็นใคร) โดยเสนอว่าขอเงินทอน 40% คิดคร่าวๆ คนละ 3 แสนกว่า 7 คนก็ 2.1 ล้านเพื่อแลกกับเดินเรื่องกับสถานทูตเพื่อให้ได้เงินส่วนที่เหลือนี้ โดยมีข้อสังเกตว่าคนที่โทร.เข้ามามีเบอร์ของญาติผู้เสียชีวิตทุกคน และรู้ขั้นตอนกระบวนภายในเป็นอย่างดี จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือ

เรื่องนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และมอบหมายให้ นางนงลักษณ์ กอวรกุล ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมประกันสังคม จ.สมุทรสาคร ประกันสังคม จ.สมุทรสงคราม และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน

นางนงลักษณ์ ชี้แจงว่า เบื้องต้นสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาทายาทของผู้เสียชีวิต ดังนี้คือ 1.สำนักงานประกันสังคม จ.สมุทรสาคร ได้จ่ายเงินค่าทำศพให้ญาติที่มีชื่ออยู่ในหลักฐานการจัดการศพทั้ง 7 รายๆ ละ 50,000 บาท เรียบร้อยแล้ว 2.ส่วนเงินที่เหลือเป็นเงินค่าทดแทนการตายและเงินบำเหน็จชราภาพรายละประมาณ 7 แสนกว่าบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอหลักฐานของทายาทผู้มีสิทธิซึ่งได้สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า มีถิ่นพำนักอยู่ที่ประเทศพม่า 5 ราย และอยู่ประเทศไทย 2 ราย 3.เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีนาย THUREIN TUN ทูตแรงงานพม่า และนาย Sai Soe สถานทูตพม่า พร้อมกับคุณกนกพร บุญโต ผู้รับมอบอำนาจของนายจ้าง และญาติของผู้เสียทั้ง 7 ราย มาพบเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม จ.สมุทรสาคร

โดยทางสำนักงานได้ชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ และหลักฐานสำหรับทายาทผู้มีสิทธิ โดยทางสถานทูตรับเรื่องไปประสานงานดูแลช่วยเหลือในเรื่อง (1) การออกพาสปอร์ต (2) หนังสือรับรองยืนยันตัวตนของผู้มีสิทธิ (3) บันทึกถ้อยคำของทายาท (4) หลักฐานอื่นๆ เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส 4.การจ่ายเงินทดแทนกรณีตาย และบำเหน็จชราภาพ จะจ่ายให้ผู้มีสิทธิเท่านั้น โดยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของทายาทผู้เสียชีวิต สำหรับกรณีที่ทายาทผู้มีสิทธิพำนักอยู่ต่างประเทศ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเช็คผ่านกระทรวงการต่างประเทศไทยในประเทศพม่า (โดยสถานทูตพม่าจะดำเนินการติดตามทายาทผู้มีสิทธิมารับ) ทั้งนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 8 ราย มีคนไทย 1 ราย เป็นนายจ้าง (เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39) และคนพม่าทั้ง 7 ราย เป็นลูกจ้าง

นางนงลักษณ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์ดังกล่าวแต่อย่างใด แต่มีกลุ่มบุคคล 4 คนเป็นคนไทยแอบอ้างเข้าไปช่วยเหลือดำเนินการขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้ แต่ขอส่วนแบ่งเป็นเงิน 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือดูแลคุ้มครองผู้เสียชีวิตต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนผู้ประกันตนการได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม เราดูแลอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ ทั้งสิ้น หากมีข้อสงสัยขอให้สอบถามได้ที่สำนักงานประกันสังคมในภูมิลำเนา ในส่วนเพจที่นำข้อมูลไปลงทำให้สำนักงานประกันสังคมมีความเสียหาย ทางกองกฎหมายจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น