กาฬสินธุ์ - หนุ่มวัย 32 ปีไปเที่ยวร้านอาหารในตัวเมืองกาฬสินธุ์กับเพื่อนแต่ร้านปิด บังเอิญเจอกับกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่ม
สุดท้ายเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันหน้าร้านก่อนถูกจ่อยิงศีรษะดับคาที่ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพวินาทีจ่อยิงได้ชัดเจน เบื้องต้นสาเหตุเกิดจากเมาแล้วทะเลาะกัน
เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (19 ก.พ.) พ.ต.ท.นพรัตน์ หลวงสนาม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตที่บริเวณหน้าร้านอาหารขายเหล้าเบียร์ด้วย ชื่อ ครัวพารวย ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ แล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สายตรวจ
ถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ นายวุฒิพงษ์ หรือก๋ง วิเชียรซอย อายุ 32 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์บริเวณศีรษะ 1 นัด จนศีรษะเละเลือดกระจัดกระจาย
สืบสวนเบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายชานนท์ ดอนชมภู อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ได้หลบหนีไปกับเพื่อนโดยใช้รถฮอนด้า ซิตี้ สีขาว คันทะเบียน กง 6282 กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด ซึ่งได้ขับหลบหนีออกจากร้านไปทางเส้นทางโกบอลเฮาส์กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวนจึงได้โทร.ประสานเบอร์โทรศัพท์จากนายนิยม อาคราช ซึ่งเป็นเพื่อน และพยายามเกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ต่อมาผู้ก่อเหตุจึงเข้ามามอบตัว
นายชานนท์ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้มาเที่ยวร้านอาหารครัวพารวยกับนายนิยม อาคราช แต่ร้านปิดแล้ว กำลังจะพากันกลับบ้าน จึงได้พบนายวุฒิพงษ์ วิเชียรซอย ผู้เสียชีวิต ที่หน้าร้านครัวพารวย นายวุฒิพงษ์มีอาการมึนเมาสุรา จึงได้ยืนพูดคุยกับนาย นิยม อาคราช ที่หลังรถได้มีปากเสียงกัน นายวุฒิพงษ์ผู้เสียชีวิต นายชานนท์ ซึ่งนั่งอยู่ในรถได้ลงมาเพื่อที่จะไกล่เกลี่ยไห้แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่นายวุฒิพงษ์ผู้ตายไม่พอใจและได้พูดจาท้าทายถามนายชานนท์ว่า ‘มึงเป็นใคร’
ก่อนที่นายชานนท์จะนำปืนที่พกติดตัวมาจ่อยิงที่ศีรษะนายวุฒิพงษ์เสียชีวิตทันที จึงได้พากันหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่โทร.ติดต่อไปให้มามอบตัว จึงตัดสินใจกลับเข้ามามอบตัว พร้อมของกลางอาวุธปืนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดผู้ต้องหาอีกครั้ง ส่วนเบื้องต้นเกิดจากทั้งสองกลุ่มมีลักษณะคล้ายคนเมาสุรา มีปากเสียงทะเลาะกันซึ่งหน้าจนก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
ด้านนายวรวิทย์ ภูอินนา อายุ 56 ปี เจ้าของร้านครัวพารวย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองกลุ่มขับรถมาจอดที่บริเวณหน้าร้าน ยังไม่ได้เข้ามาเนื่องจากร้านปิดแล้ว จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงพากันออกมาดูก็พบว่ามีคนถูกยิง จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
