แพร่ - หนุ่มไปทำงานเกาหลี คิดระแวงเข้าทำนองไปเสียนามาเสียนาง บินเงียบกลับแพร่ เกิดทะเลาะมีปากเสียงเรื่องลามรุนแรง ก่อเหตุยิงแฟนสาวแม่ฮ้างดับคาบ้าน แล้วใช้ปืนจ่อหัวยิงตัวเองอาการสาหัสก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ (18 ก.พ. 66) พ.ต.ท.วินัย เหลา พนักงานสอบสวน สภ.ช่อแฮ จ.แพร่ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตในบ้านเลขที่ 91 หมู่ 2 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนกิจ ไชยนันท์ รอง ผกก.สภ.ช่อแฮ และชุดกู้ชีพ เร่งเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบนางณภัทร อัครเดชาพงษ์ หรือบุ๋ม อายุ 45 ปี ถูกยิงที่หน้าอก จำนวน 1 นัด เสียชีวิตไปแล้วส่วนผู้ก่อเหตุคือนายธิติพงษ์ พรมตา อายุ 38 ปี ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงที่ศีรษะล้มนอนหงายอยู่หน้าประตู เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่ง รพ.แพร่เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิต
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนางณภัทร ซึ่งเป็นแม่ฮ้าง (หย่ากับสามีเก่า) อาศัยอยู่กับลูกสาวสองคน นายธิติพงษ์ซึ่งเป็นคนรักใหม่ที่คบหากันได้ราว 3-4 ปี ไปทำงานอยู่ประเทศเกาหลีแล้วเกิดระแวงสงสัยว่านางณภัทรมีแฟนใหม่ จึงได้เดินทางกลับมาแบบกะทันหัน แล้วน่าจะมีปากเสียงกันก่อนใช้อาวุธปืน คาดว่าเป็น 11 มม.ลงมือก่อเหตุดังกล่าว
นางภาวนา มุ้งทอง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 2 ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดกัน กล่าวว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุได้ยินเสียงปืน 2 นัดในบ้านข้างๆ จึงได้วิ่งไปดู พบนายธิติพงษ์ถูกยิงล้มลงนอนอยู่หน้าประตู ส่วนน้องบุ๋ม หรือนางณภัทรถูกยิงที่หน้าอก ตอนนั้นยังไม่เสียชีวิต จึงได้ออกมาหาคนไปช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม นางภาวนาเล่าด้วยว่า ทั้งสองได้เสียเป็นแฟนกันมานานแล้ว แต่ฝ่ายชายต้องไปทำงานต่างประเทศ แต่ด้วยความที่ค่อนข้างหึงหวง อาจคิดระแวงเชื่อว่าการฆ่ากันครั้งนี้มาจากความหึงหวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธิติพงษ์มีการสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ใช้ชื่อว่า "รอรักแท้ที่มาช้า ดีกว่าเป็นคนไร้ค่าที่มาคนแรก" แล้วอัปน้องบุ๋ม หรือนางณภัทรผู้เสียชีวิต ขึ้นปกก่อนเกิดเหตุ ล่าสุดมีรายงานว่านายนายธิติพงษ์ที่มีอาการสาหัสได้เสียชีวิตแล้วที่ รพ.แพร่