จันทบุรี - ตม.จว.จันทบุรี สนธิกำลังรวบสาวรับจ้างเปิดบัญชีม้าหนีหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ คาด่านชายแดนบ้านผักกาด จ.จันทบุรี
วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี ว่า หลังได้รับการประสานจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโกงโดยแสดงคนเป็นคนอื่น” ซึ่งได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปหลบซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้านบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี
แต่ด้วยเหตุจำเป็นเร่งด่วนจึงต้องเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน้าที่ตำรวจ ตม.จันทบุรี ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน กระทั่งพบผู้ต้องหาทราบชื่อคือ น.ส.ขวัญจิรา จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
เบื้องต้น น.ส.ขวัญจิรา ให้การรับสารภาพว่า เนื่องจากตนเองไม่มีงานทำและติดการพนันออนไลน์ ประกอบกับมีเพื่อนที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กชักชวนให้เปิดบัญชีม้า ขณะที่ตนเองต้องการใช้เงินจึงยอมกระทำการดังกล่าวทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย
และยังบอกอีกว่าในเบื้องต้นจะมีคนพาไปธนาคาร และให้ตนเองเข้าไปเปิดบัญชีเพียงคนเดียว เมื่อเสร็จแล้วจึงได้ส่งมอบสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มให้คนที่นำพาไปเปิดบัญชีจากนั้นจึงจะซื้อซิมเปิดเบอร์โทรศัพท์ให้ และให้ตนเองยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร หลังเสร็จกระบวนการแล้วจึงจะได้ค่าจ้างเปิดบัญชีๆ ละ 1,500 บาท
"ผู้ที่ให้เปิดบัญชีอ้างว่าจะนำบัญชีไปใช้หมุนเวียนในเว็บพนัน โดยที่ตัวเองไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้หลอกลวงเยอะขนาดนี้" น.ส.ขวัญจิรา กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 ได้กำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขันและตรวจสอบบุคคลที่มีหมายจับของทางการที่เดินทางเข้าออก บริเวณชายแดนประเทศไทยติดต่อกับประเทศกัมพูชา โดยให้ทำการสืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังผู้ต้องหาตามหมายจับในพื้นที่
พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน รวมถึงเยาวชนให้รู้เท่าทันหากได้รับว่าจ้างให้เปิดบัญชีม้า เนื่องจากถือเป็นความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ทั้งยังมีความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
โดยอัตราโทษสำหรับความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 10,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ.2542