บุรีรัมย์ - รักแท้ความตายก็ไม่อาจพราก เผยยายวัย 93 ชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตด้วยโรคชรา ขณะพระสวดก่อนจะเคลื่อนศพออกจากบ้านไปฌาปนกิจที่วัด ตาคู่ชีวิตซึ่งนอนป่วยด้วยโรคชราสิ้นใจตาม ลูกหลานและชาวบ้านยกให้เป็นคู่รักตัวอย่างเพราะไม่เคยเห็นทะเลาะกัน ห่วงใยกันยามเจ็บไข้
วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านเขาย้อยพัฒนา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคู่รักสูงวัยเสียชีวิตตามกันไป จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 บ้านเขาย้อยพัฒนา ต.โคกมะม่วง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของคุณพ่อหม้อ เมฆปะคำ อายุ 93 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งวันที่คุณตาสิ้นใจเป็นวันเดียวกับที่พระกำลังสวดก่อนที่ทางลูกหลานจะเคลื่อนศพคุณแม่นาค เมฆปะคำ อายุ 93 ปี ภรรยาคู่ชีวิตของพ่อหม้อ ไปฌาปนกิจที่วัด ซึ่งคุณแม่นาคได้เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 แต่ลูกหลานไม่ได้บอกให้ตารู้ เพราะตอนนั้นตาก็ป่วยโรคชราและนอนติดเตียงจึงกลัวตาจะช็อกที่ต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก ซึ่งลูกหลานได้นำรูปถ่ายของพ่อและแม่มาตั้งไว้คู่กัน
นายมนัส เมฆปะคำ อายุ 67 ปี ลูกคนที่ 3 จากลูกทั้งหมด 10 คน เล่าว่า ที่ผ่านมาตนได้เห็นความรักของพ่อกับแม่มาโดยตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว และทั้งคู่แสดงความรักความห่วงใยต่อกัน โดยเฉพาะพ่อถ้าตอนไหนที่ไม่เห็นแม่ก็จะถามหาว่าแม่ไปไหน ที่สำคัญพ่อกับแม่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ซึ่งการใช้ชีวิตคู่ของพ่อแม่และความรักที่พ่อแม่มีให้ต่อกัน ถือเป็นแบบอย่างให้แก่ลูกหลานที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้
ด้านนายสมัคร เมฆปะคำ อายุ 73 ปี ลูกคนแรก ซึ่งบวชหน้าไฟให้กับคุณแม่ ต้องมาบวชให้คุณพ่อต่อโดยยังไม่สึก เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่แม่เสียชีวิตด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ทางลูกหลานกำหนดจะฌาปนกิจวันที่ 12 ก.พ. 66 แต่ขณะที่พระกำลังสวดก่อนจะเคลื่อนย้ายไปฌาปนกิจที่วัด พ่อซึ่งนอนป่วยอยู่ก็สิ้นใจ การเสียชีวิตของพ่อแม่ลูกหลานก็เสียใจ แต่จะนำแบบอย่างการใช้ชีวิตและความรักที่พ่อกับแม่แสดงออกต่อกันไปปรับใช้ในชีวิต