กำแพงเพชร - “ไผ่ ลิกค์ หรือไผ่ วันพอยท์” โพสต์คลิปภาพฟาดเดือด..จี้ตำรวจให้พูดความจริงได้แล้ว หลังค้นร้านทำเล็บดาราสาว “ดิว อริสรา” แล้วอ้าง 2 รอบไม่เหมือนกัน พอชูหมายจับยังเป็นคดีที่หมดอายุความไปแล้ว แถมพุ่งเป้าไปเจอคนเป็นพยานคดี “มาเก๊า 888” ซ้ำ
“ไผ่ ลิกค์ หรือไผ่ วันพอยท์” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมรูปภาพและคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปค้นร้านทำเล็บของดาราสาว "ดิว อริสรา" ว่า..ควรพูดความจริงได้แล้ว เรื่องที่มีผู้ชาย 2 คนเข้าไปในร้านทำเล็บของดิว ซึ่งตอนหลังเราพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ แต่การเข้าไปในร้านดังกล่าว ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเข้ามาทำอะไร จนต้องไปสืบทราบเองว่าเป็นตำรวจภายหลัง เหมือนอย่างที่ทราบในข่าว
ต่อมาคำตอบแรกที่บอก..เข้ามาเพื่อตามหาคนต่างด้าวที่ขโมยของมา จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาหลังจากที่ข่าวออกอีกครั้ง เพื่อตามหาคนในรูปซึ่งยื่นให้พนักงานในร้าน ซึ่งน้องคนนั้นเป็นคนสนิทของดิว คราวนี้อ้างว่า..มาตามหมายจับตามที่เป็นข่าวตามจับคนร้ายหนีคดี
“เมื่อผมได้ไปเช็กและตามเอกสารในรูปที่ลงไว้ พบว่าคดีหมดอายุความไปแล้ว และหมายจับก็ยกเลิกไปแล้วเช่นกัน และที่สำคัญน้องคนนี้คือพยานที่สำคัญในคดี..มาเก๊า 888”
ไผ่ ลิกค์ ระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้คืออะไร ใช่การข่มขู่หรือไม่ ตำรวจควรทำอะไรให้คนที่ต่อสู้กลัวจริงๆ เหรอ และพฤติกรรมของคนในมาเก๊า 888 เป็นเหมือนในแชตที่ลงไว้ ยิ่งเป็นแบบนี้ใครจะกล้าออกมาพูดต่อ ถ้าท่านไม่มีคำอธิบายที่ดี วันจันทร์ตนจะพาน้องคนนี้ไปหาตำรวจเองที่ สน.ทองหล่อ #saveดิว #saveพยาน
ส.ส.ไผ่ ลิกค์ เปิดเผยถึงเรื่องราวที่เข้ามาช่วยเหลือ “ดิว อริสรา” ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งเพราะเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำอยู่แล้ว แต่ได้มีการเข้าไปในร้านทำเล็บของดิว ซึ่งช่างทำเล็บที่อยู่ภายในร้านก็เป็นผู้หญิง เจ้าของร้านก็เป็นผู้หญิง ทำให้ทุกคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“วันแรกที่มีคนเข้าไป ไม่รู้ว่าเป็นใคร ต่อมาผมเห็นภาพบุคคลที่เข้าไป จึงคิดว่าจะต้องออกมาปกป้องในเรื่องนี้ ส่วนตัวเองและทีมงานร้อยเอก ธรรมนัสก็ดูแลเรื่องการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแรก สำหรับผมถือว่าเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน มีหน้าที่พูดแทนประชาชน ถ้าผทต้องกลัวกับอำนาจพวกนี้ ก็คิดว่าประชาชนคงอยู่กันไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องทำเต็มที่”
ส่วนกรณีที่ตนได้ไปตรวจสอบว่าหมายจับที่ตำรวจอ้างว่าเข้าไปหาในร้านทำเล็บหมดอายุ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าหากหมายจับหมดอายุ แล้วจะเข้าไปในร้านนั้นทำไม ซึ่งตอนแรกอ้างว่าเข้าไปจับต่างด้าว ตอนท้ายมาบอกว่าไปตามหมายจับ แต่หมายจับนั้นหมดอายุแล้ว และบุคคลที่เข้าไปหาก็ยังเป็นพยานที่เกี่ยวข้องกับมาเก๊า 888 ด้วย ดังนั้นจึงต้องออกมาพูดเพื่อให้สังคมรับรู้ว่ามันถูกต้องและโปร่งใสจริงหรือไม่ ขบวนการของตำรวจเกิดอะไรขึ้น
“ยืนยันว่าหากประชาชนขอความช่วยเหลือเรื่องความรุนแรงของเด็กและสตรีก็ต้องเดินหน้าต่อไป และที่ออกมาก็มีการประสานกับท่านร้อยเอก ธรรมนัสอยู่ตลอด ท่านก็ได้ให้กำลังใจดิวและจะช่วยเต็มที่”
ส่วนดิวเอง ขณะนี้รู้สึกกลัวมาก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นการเปิดโปงที่ใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งตอนนี้มีหมายจับออกมาแล้วกว่า 50 หมาย และมีคนเสียผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันจับตาดู ให้เรื่องนี้อยู่ในกระแสต่อไป
