กาญจนบุรี - "อนุทิน" พร้อมทีมงานชุดใหญ่ บุกเมืองกาญจน์ เปิดตัว 5 อดีต ส.ส. ขอคะแนนชาวเมืองกาญจน์ อยากได้ ส.ส.ยกจังหวัด เอาไปเลย 1 รมต. เผยถ้าอยากให้ตนเองมารับใช้คนเมืองกาญจน์ ต้องเลือกภูมิใจไทย
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ จ.กาญจนบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ตลอดจนจัดเวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ เขต 2 นายสมเกียรติ วอนเพียร เขต 3 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน เขต 4 นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และเขต 5 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ โดยนายยศวัฒน์ เป็น ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆ เคยเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงพื้นที่พบปะชาวกาญจนบุรีในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดย นายอนุทิน ได้ขึ้นรถแห่พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต และผู้บริหารพรรคลงพื้นที่พบปะประชาชนพี่น้องชาวกาญจนบุรี และได้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
นายอนุทิน เปิดเผยถึงการขอพรต่อศาลหลักเมืองกาญจนบุรี ว่า ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.ยกจังหวัด ขอให้พี่น้องชาวกาญจนบุรีเชื่อมั่นพรรค และผู้แทนที่เป็นผู้สมัครของพรรคทุกคน พร้อมทั้งบอกว่า การลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และการจัดปราศรัยใหญ่วันนี้ พรรคภูมิใจไทยมีผู้สมัครครบทุกเขต ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่แล้ว มั่นใจว่าจะสานต่องาน และทำประโยชน์ให้ชาวกาญจนบุรีได้ ไม่กล้าบอกว่าจะแลนด์สไลด์ หรือจะได้ทุกคน เพราะเป็นสิทธิ เป็นความเมตตาของประชาชนที่จะเลือก
ตนเองมองกาญจนบุรี มีโอกาสพัฒนาสูงมาก ทั้งอุตสาหกรรมหนัก พืชผลทางการเกษตร การท่องเที่ยว มีโอกาสขยายความเจริญได้ไม่มีที่สิ้นสุด ชายแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้านทำมาค้าขายได้ มีการคมนาคมที่สะดวก ล้วนเป็นโอกาสที่ผู้แทนของพรรคซึ่งมีประสบการณ์ความสามารถ หากเข้าไปยกจังหวัดได้สามารถที่จะทำให้เจริญได้อีกมาก และสำหรับพรรคภูมิใจไทย หากพื้นที่ไหนได้ยกจังหวัดเมื่อไหร่ก็รัฐมนตรีแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เราต้องเคารพสิทธิประชาชน ในใจอยากบอก 100% แต่ต้องให้เกียรติประชาชนกำหนดอนาคตของพรรค ซึ่งทางพรรคจะเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ข้อดีของพรรคที่เสนอบุคคลเหล่านี้คือทุกคนมีคะแนนนิยมอยู่แล้ว ถ้ายกจังหวัดจะมีคนเข้าไปบริหารประเทศหนึ่งคนแน่นอน