ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยารับลูกคำสั่งศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุด ระงับคุ้มครองอาคาร A "บ้านสุขาวดี" ปลูกสร้างบนพื้นที่พิพาท 11 ไร่ริมทะเล จากนี้เตรียมเดินหน้ารื้อถอน หากภายใน 15 วันไม่ดำเนินการเองให้แล้วเสร็จ
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ได้นำประกาศยกเลิกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และหมายประกาศคำสั่งใหม่แบบ ค.3 ค.4 ค.7 และ ค.10 ในอาคาร 3 หลัง ไปติดภายในบ้าน “บ้านสุขาวดี” ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นครั้งที่ 2 หลังตรวจสอบพบว่าเป็นบุกรุกพื้นที่สาธารณะ และยังมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่สำคัญอาคารที่มีการก่อสร้างยังไม่ได้ระยะตามแนวร่นจากระดับน้ำทะเล 20 เมตร ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง “บ้านสุขาวดี” ในนามบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี
กระทั่งมีการพิจารณาว่าประกาศคำสั่งเมืองพัทยายังไม่ครบองค์ประกอบ และเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วน จึงให้มีการดำเนินการออกคำสั่งใหม่นั้น
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา ว่าหลังตรวจสอบพบว่า "บ้านสุขาวดี" มีปัญหาเรื่องการบุกรุกที่
โดยได้มีปิดหมายประกาศยกเลิกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และทำการปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.3 ค.4 ค.7 และ ค.10 ในอาคาร 3 หลังเพื่อความถูกต้องและตรงตามคำสั่งของภาครัฐ ภายใต้การลงนามจาก นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา เนื่องจากการออกประกาศคำสั่งในครั้งแรก “บ้านสุขาวดี” ในนามบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี
จนมีผลการพิจารณาว่าประกาศคำสั่
"ในครั้งนั้นผู้ดูแล "บ้านสุขาวดี" แย้งว่าอาคารดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ที่งอกตามธรรมชาติ แต่เมืองพัทยามั่นใจว่าจากแนวเขตการรังวัดและภาพถ่ายทางอากาศ เป็นการบุกรุกพื้นที่อย่างแน่นอน จึงถือว่ายังไม่ยุติเพราะเป็นข้อพิพาทเพื่อรอผลการตรวจสอบ และล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาไต่สวนแล้วและได้พิจารณายกเลิกการคุ้มครองอาคาร A"
และจากนี้เมืองพัทยาจะมีการปิดหมายประกาศให้ทางสุขาวดี รื้อถอนเองภายใน 15 วัน แต่หากไม่ดำเนินการ เมืองพัทยาจะเข้าไปรื้อถอนเองโดยไม่จำเป็นต้องสรรหาผู้รับเหมา เนื่องจากเป็นอาคารที่ไม่ใหญ่มากนัก
หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา ยังเผยอีกว่า ขณะนี้การพิจารณาในชั้นศาลปกครองและศาลปกครองสูงสุดเสร็จสิ้นแล้ว จึงถือว่าเมืองพัทยาสามารถดำเนินการตามคำสั่งศาลได้ทันที ส่วนอาคาร B และ C ซึ่งบ้านสุขาวดี ผู้ดูแจ้งว่าเป็นอาคารที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่เมืองพัทยาได้ทำการรังวัดแนวเขตจากระดับน้ำทะเลสูงสุด พบว่าอาคารอยู่ในแนวที่มีการล่วงล้ำลำน้ำ
และปัจจุบันได้มีการตัดพื้นที่ของอาคาร C ไปแล้วเพื่อลดพื้นที่ของอาคารให้อยู่ในระยะห่างจากทะเลตามกฎหมาย แต่อาคาร B ยังรอการดำเนินการอยู่เนื่องจากการรื้อถอนอาจมีความยากลำบาก