ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ลุงป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ขอนแก่นติดตามเร่งรัดโครงการก่อสร้างแก้มลิงแก่งน้ำต้อนให้เสร็จภายในปี 68 แก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน เจ้าตัวอารมณ์ดีเว้าอีสานทักทายชาวบ้าน “ซำบายดีบ่” พร้อมอ้อน อยากให้เป็นนายกฯ ต้องเลือกดิ ต้องเลือก
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่วัดสายราษฎร์บำรุง บ้านป่าเหลื่อม ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ (ระยะที่ 1) โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 นายพงศ์กรณ์ กำแหง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 6 และผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
โดยมีประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คนมาต้อนรับ ถือป้ายที่มีข้อความบอกรักลุงป้อม ให้ลุงป้อมสู้ๆ ฯลฯ และผูกผ้าขาวม้าคาดเอวให้รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรียิ้มแย้มตลอดเวลา โดย พลเอก ประวิตร เดินมาทักทายพี่น้องประชาชน บางคนก็ถึงกับเข้าไปหอมแก้ม แจกมินิฮาร์ตบอกรัก แต่ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่ามีชาวบ้านบางคนเบะปากใส่ด้วย หลังจากนั้น พลเอก ประวิตรได้ขึ้นบนเวทีกล่าวทักทายพี่น้องชาวขอนแก่นเป็นภาษาอีสาวว่า ““ซำบายดีบ่”” พร้อมกล่าวถึงโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนที่จะเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็วภายในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เป็นโครงการแก้มลิงขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแก้มลิงสองฝั่งลำน้ำชี โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น พร้อมวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำที่มีอยู่เดิมให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้นและช่วยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น เนื่องจากแหล่งน้ำเดิมมีสภาพตื้นเขิน ในช่วงฤดูน้ำหลากมักเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณโดยรอบหนองน้ำ
ขณะเดียวกัน ในช่วงฤดูแล้งก็มักจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากไม่มีอาคารบังคับน้ำ จึงไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2564-2569) เป็นการขุดลอกแก้มลิงพร้อมอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มความจุเก็บกักน้ำจากเดิม 7.43 ล้าน ลบ.ม. เป็น 35.02 ล้าน ลบ.ม. พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอนาคต ส่วนในระยะที่ 2 แผนงานก่อสร้างปี พ.ศ. 2568-2570 เป็นงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานประมาณ 35,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ ได้แก่ ตำบลเมืองเก่า ตำบลดอนช้าง ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง, ตำบลขามป้อม ตำบลพระยืน ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน และตำบลบ้านเหล่า อำเภอฝาง ทั้งนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการจะเป็นแหล่งเก็บกักน้ำที่สำคัญของลำน้ำชี
จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และมีน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกสำหรับพื้นที่การเกษตรได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นได้มากขึ้น
ทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ลุ่มน้ำที่สำคัญ คือ ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล และแม่น้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำชี ลำน้ำพอง และลำน้ำเชิญ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่คือ เขื่อนอุบรัตน์ สถานการณ์น้ำโดยรวมของจังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ย 1,276 มิลลิเมตรต่อปี และยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำ
ส่วนสภาพปัญหาทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น ในภาพรวมนั้นมีปัญหาหลัก 6 ประการ คือ ปัญหาอุทกภัย มักเกิดอุทกภัยในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ทั้งในเขตพื้นที่อำภอเมืองขอนแก่น และพื้นที่อำเภอโดยรอบ สาเหตุเกิดจากน้ำล้นตลิ่ง และสภาพการระบายน้ำไหลออกจากพื้นที่ค่อนข้างต่ำ และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพื้นที่เกิดภัยส่วนใหญ่อยู่ในโชนด้านทิศเหนือ และทิศใต้ของจังหวัด สาเหตุจากปริมาณน้ำฝนที่มีค่อนข้างน้อย และแหล่งกักเก็บน้ำมีสภาพตื้นเขินไม่สามารถกักเก็บน้ำได้
ทั้งนี้ นายไกรสรได้กล่าวขอบคุณ พลเอก ประวิตร ที่ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการด้านการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชอนแก่น ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น งบกลาง งบประมาณตามแผนงานบูรณาการและงบประมาณของส่วนราชการ ซึ่งโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่กรมชลประทานได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 350 ล้านบาท ดำเนินการในพื้นที่จังหวัด ระหว่างปี 2564-2567 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำจากเดิม สามารถบรรเทาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างดียิ่ง
ภายหลังรับฟังรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้ายังดำรงตำแหน่งอยู่จะไม่ทำให้จังหวัดขอนแก่นแล้ง ส่วนการพัฒนาพื้นที่แก่งน้ำต้อนนั้นก้าวหน้าไปมาก และอยากจะบอกว่ารัฐบาลพยายามจัดงบประมาณให้ทุกหน่วยงานนำไปแก้ไขปัญหาแล้งให้ประชาชน เพราะการบริหารจัดการน้ำอุปโภค บริโภคนั้นมีความสำคัญมาก
จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายประชาชน บางคนได้เดินเข้าไปกอด หอมแก้ม แต่ก็มีบางคนที่เบะปากใส่ นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า รู้สึกพอใจกับโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ (ระยะที่ 1) เป็นอย่างมาก และจะเร่งให้เสร็จภายในปี 2568 พร้อมทั้งตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีที่ชาวบ้านต้องการให้รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้น ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีตอบว่า “ต้องเลือกดิ ต้องเลือก” ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ออกเดินทางพร้อมคณะไปที่ จ.ชัยภูมิ ต่อทันที