เชียงราย - ตำรวจสนธิกำลัง นปพ.รวมนับ 100 นาย ส่งเฮลิคอปเตอร์บินส่อง ตามจับอดีต ตร.ยิง “นายดาบตำรวจเวียงชัย” ดับ ระหว่างถือหมายศาลค้นเป้าหมายต้องสงสัยครอบครองปืนเถื่อน ญาติคาดเครียดหลังลาออกจากราชการ จำนำรถแล้วไม่ได้คืน
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นยิง ด.ต.เปรม ตั๋นตุ้ย อายุ 41 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เวียงชัย จ.เชียงราย เสียชีวิตบริเวณทุ่งนาเขตหมู่บ้านชัยภูมิ หมู่ 11 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย หลังร่วมนำหมายค้นจากศาล จ.เชียงราย เข้าค้นบ้านเลขที่ 49 หมู่บ้านชัยภูมิ ช่วงเช้าที่ผ่านมา (4 ก.พ. 66)
ล่าสุด พล.ต.ต.ธนธัช น้อยนาค รอง ผบช.สยศ.ตร.ปฏิบัติราชการ ภ.5 พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.จิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.เวียงชัย ได้ระดมตำรวจในพื้นที่และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.เชียงราย กว่า 100 นาย กระจายกำลังติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งได้หลบหนีไปโดยไม่มีพาหนะ คาดว่าวิ่งลัดเลาะไปตามหมู่บ้านในชนบทและป่าละเมาะใกล้เคียง พร้อมใช้เฮลิคอปเตอร์ค้นหาทางอากาศอีกทาง เนื่องจากคาดว่าผู้ก่อเหตุมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในป่าจึงอาจกบดานได้อย่างแนบเนียน
สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 36 ปี เคยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ที่ จ.ยะลา แต่ได้ลาออกจากราชการเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน เพิ่งย้ายเข้าอยู่บ้านที่ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย เมื่อปลายปี 2565 ต่อมาได้ไปอาศัยอยู่กับบิดาและมารดาที่บ้านหลังเกิดเหตุเพื่อทำธุรกิจส่งน้ำดื่ม แต่คาดว่ายังมีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าตรวจค้น
พ.ต.อ.จิตรกรกล่าวว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่สงสัยผู้ก่อเหตุจะมีอาวุธปืนไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย เพราะเป็นตำรวจเก่า จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลแล้วเข้าตรวจค้น แต่ยังไม่ทันได้ตรวจผู้ก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีออกไปทางหลังบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งไล่ติดตาม กระทั่งถูกยิงสวนจนเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใคร มีอาชีพอะไร รวมทั้งได้ประสานพื้นที่ใกล้เคียงให้ติดตามหา แจ้งพ่อแม่ให้ช่วยติดต่อเพื่อให้เข้ามอบตัวแล้ว
ด้านนายกมลภพ เครือสาร กก.ตร.สภ.เวียงชัย ซึ่งเป็นอาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลานชายตนเคยทำงานอยู่ที่ จ.ยะลา ในยศ ส.ต.ท. แต่สภาพร่างกายไม่ปกติและอยู่ไกลจากบ้านทำให้เกิดความเครียด จึงได้ลาออกกลับมาอยู่ที่บ้าน มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจน้ำดื่ม ปืนที่เคยพกก็ขายไปแล้ว ส่วนปืนที่ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเอามาจากไหน
ทั้งนี้ ตามปกติผู้ก่อเหตุเป็นคนมีนิสัยเรียบง่ายและจะยกมือไหว้คนที่พบเห็นตลอด แต่คาดว่าเมื่อมาอยู่บ้านก็มีอาการเก็บกดประกอบกับมีปัญหาหลังนำรถยนต์ไปจำนำด้วย ดังนั้นจึงอยากให้เขามอบตัวเพราะทุกฝ่ายต่างไม่สบายใจและเจ้าหน้าที่ก็ต้องระดมกำลังกันออกค้นหาตัวกัน
ขณะที่นางดารุณี เครือสาร อายุ 64 ปี มารดาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกได้นำรถยนต์ของเขาไปจำนำ แต่ไม่ได้รถคืน แม้จะพากันไปแจ้งความแล้วก็ยังไม่ได้คืนทำให้เกิดความเครียด กระทั่งตำรวจเข้าไปค้นที่บ้าน ซึ่งหลังเกิดเหตุตนแทบจะหมดแรงและอยากให้ลูกมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้นค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป
