ตราด – ชาวบ้านน้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ร้องสื่อฯช่วยหลังเดือนร้อนหนักจากสะพานท่าเทียบเรือที่ใช้มานานกว่า 20 ปีพังเสียหายจนสัญจรไม่ได้นานกว่า 2 ปีหน่วยงานพื้นที่ไม่แก้ไขซ่อม สอบถามผู้บริหารได้ความว่าไม่มีงบประมาณ
วันนี้ (4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านท้ายเขา ม.1 ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ว่าได้รับความเดือดร้อนจากจากปัญหาสะพานท่าเทียบเรือฝั่งมัสยิดอัลกุบรอ ที่เกิดการชำรุด2 จุดและยังพบว่าเหล็กเส้นใต้สะพานยังถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ขณะที่คอนกรีตบางส่วนหายไปจนเจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานไม่ให้สัญจรมานานกว่า2 ปี และจนถึงขณะนี้สำนักงานเทศบาลตำบลน้ำเชี่ยว ก็ยังไม่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขหรือซ่อมแซมแต่อย่างใดทั้งที่สะพานดังกล่าวเป็นที่สัญจรเข้าออกหมู่บ้านของชาวบ้านในพื้นที่มานานกว่า 20 ปี
"เมื่อสะพานชำรุดชาวบ้านได้พยายามขอให้เทศบาลตำบลน้ำเชี่ยว เร่งซ่อมแซมแต่ผ่านมาเกือบ 2 ปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเพราะเทศบาลฯอ้างว่าอยู่ระหว่างการของบประมาณปี พ.ศ.2567 จากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น" ชาวบ้าน กล่าว
เช่นเดียวกับ นางขษิฐา ถนอมวงษ์ อายุ67 ปี ชาวบ้านอีกรายเผยในทำนองเดียวกันว่า เมื่อเทศบาลฯ นำป้ายห้ามผ่านมาติดตั้งบริเวณสะพานที่ชำรุดทำให้ตนเองไม่สามารถค้าขายได้จนส่งผลกระทบต่อรายได้ ที่สำคัญนักท่องเที่ยวก็ไม่เข้ามาเยือนหมู่บ้าน ได้เช่นกัน
วันนี้จึงอยากเรียกร้องให้นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำเชี่ยว ลงมาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนและเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
ด้าน น.ส.เยาวภา ภูมิมาโนช ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านท้ายเขา บอกว่าหลังสะพานชำรุดตนเองได้เข้าไปแจ้งเรื่องต่อเทศบาลตำบลน้ำเชี่ยว แต่เทศบาลฯ ทำได้เพียงการนำแผงมากั้นไม่ให้ชาวบ้านขี่รถผ่านและเป็นเช่นนี้มานานกว่า 2 ปี ส่วนสาเหตุที่ต้องร้องเรียนสื่อฯก็เพราะชาวบ้านอดทนกับปัญหานี้ไม่ไหวแล้ว
"รู้สึกน้อยใจที่เทศบาลฯ ได้งบนอกมาจำนวน 6 ล้านบาทแต่กลับนำไปปรับปรุงสะพานวัดใจ อาคารอเนกประสงค์และทำสะพานไม้ไปยังอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งสะพานบริเวณนั้นยังแข็งแรงอยู่ แต่ในส่วนที่เสียหายกลับไม่ได้รับการดูแล " ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านท้ายเขา กล่าว
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายพีระพงษ์ พิพัฒน์เลิศสกุล นายกเทศมนตรีตำบลน้ำเชี่ยว ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่า เทศบาลฯไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นและที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาและเขียนโครงการซ่อมแซมสะพานตลอดทั้งเส้น
ส่งไปยังกรมส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึง2 ปีติดต่อกัน แต่สุดท้ายโครงการก็ต้องถูกปัดตกไป เนื่องจากทางกรมฯ แจ้งว่างบซ่อมแซมสูง
ด้าน นายอภิรักษ์ ศิริเสวกุล ผู้อำนวยการกองช่าง สำนักงานเทศบาลตำบลเชี่ยว เผยยืนยันว่าสาเหตุที่เทศบาลฯ ไม่สามารถซ่อมแซมสะพานได้เฉพาะจุด เนื่องจากหากรื้อเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งจะทำให้โครงสร้างที่ติดกันถล่มลงมาได้ เนื่องจากพื้นใต้สะพานเสื่อมสภาพ จึงจำเป็นต้องทำการก่อสร้างใหม่
ขณะที่การก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือและส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีความกว้าง3เมตร ยาว215เมตร ต้องใช้งบถึง 9,949,000 บาท จึงให้เทศบาลฯมีงบไม่เพียงพอและต้องทำเรื่องขอต่อกรมส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอใช้งบใน ปี2567ที่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณ