อุทัยธานี - ชาวเมืองอุทัยธานีแสบหูแสบตากันทั้งเมือง..ตื่นมาเจอฟ้าหลัวขมุกขมัวมองไม่เห็นแดดเหมือนฝนจะตก วัดคุณภาพอากาศพบกลายเป็นพื้นที่สีแดง ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งปรี๊ดทะลุ 174 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. ต้องพากันสวมหน้ากากอนามัย อยู่แต่ในบ้านแทน
วันนี้ (3 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศในพื้นที่อุทัยธานีว่าขมุกขมัวเต็มไปด้วยฝุ่นหมอกควันจนไม่มีแสงแดดสาดส่องเหมือนปกติ ชาวบ้านหมู่ 1 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง วัดค่าฝุ่น PM 2.5 จากพิกัด ต.อุทัยใหม่ อ.เมืองอุทัยธานี เมื่อ 08.20 น.พบกลายเป็นพื้นที่สีแดง มีค่าฝุ่นอยู่ที่ 174 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ
แอปพลิเคชันตรวจวัดคุณภาพอากาศได้แจ้งคำแนะนำสุขภาพของพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM.2.5 สูงมาก หรือเกินกว่ามาตรฐาน ว่า คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หรือหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
ชาวบ้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สภาพอากาศวันนี้ไม่เหมือนกับทุกวัน แม้มืดครึ้มคล้ายกับจะมีฝนตก แต่กลับมีกลิ่นที่สูดดมเข้าไปแล้วรู้สึกแสบคอ คันจมูกกับดวงตา มีอาการไอ-จามร่วมด้วย ทำให้มั่นใจว่าสภาพอากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้คือมีฝุ่น PM 2.5 สูง จึงพากันสวมใส่หน้ากากอนามัย และให้เด็ก-ผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน
ทั้งนี้ PM 2.5 นั้นคือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หากเทียบกับความหนาของเส้นผม จะมีขนาดเล็กลงไปอีก 30 เท่า การได้รับ PM 2.5 ทางการหายใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจและปอด เสี่ยงต่ออาการกำเริบ เช่น ไอ หายใจลำบาก หอบหืด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หัวใจวายเฉียบพลัน และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
