กาญจนบุรี - เพลิงไหม้แพพักรีสอร์ตชื่อดัวริมแม่น้ำแควน้อย อ.ไทรโยค วอด 14 หลัง คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.45 น. วานนี้ (29 ม.ค.) ร.ต.อ.กสานต์ พารา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครกาญจน์ ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้แพพัก ภายในไทรโยค มันตรา รีสอร์ท หมู่ 1 บ้านแก่งประลอม ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จึงประสานรถดับเพลิงในพื้นที่และใกล้เคียง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เข้าระงับเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นแพพักขนาดใหญ่ซึ่งผูกติดกันอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย รวมทั้งหมดประมาณ 16 หลัง ต้นเพลิงเกิดจากแพสระว่ายน้ำซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างแพทั้งหมดแล้วลุกลามไปแพข้างเคียงทั้ง 2 ฝั่งของแพต้นเพลิงอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลไทรโยค เทศบาลตำบลลิ่นถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสา และกองพันทหารพัฒนา ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง
ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำ โดยแพอยู่ในแม่น้ำและผูกติดกันเป็นแนวยาวตามโค้งของลำน้ำ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงต้องใช้วิธีลากสายและฉีดข้ามไปยังแพ และเนื่องจากโครงสร้างของแพเป็นโครงเหล็กส่วนฝาผนังเป็นไม้ อีกทั้งหลังคามุงด้วยเมทัลชีทโดยมีใบจากปิดคลุมทับอีกชั้นจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับขณะเกิดมีลมกระโชกแรง จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เพลิงกำลังลุกลามไปแพหลังที่ 15 และหลังที่ 16 อาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี จึงได้ตัดสินใจปีนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อรื้อหลังคาจากเป็นการสกัดเชื้อเพลิงอีกทางหนึ่ง โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ใช้น้ำจากเครื่องสูบน้ำของแพดังกล่าวช่วยฉีดสกัดอยู่ด้านล่าง
จนกระทั่งเวลา 17.30 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามต่อไป แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อดับเถ้าถ่านป้องกันไม่ให้เปลวไฟปะทุขึ้นมาอีก กระทั่งเวลา 18.30 น. เพลิงจึงสงบ โดยใช้เวลาระงับเหตุนานเกือบ 3 ชั่วโมง
จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่า เพลิงได้เผาไหม้แพจนได้รับความเสียหายไปกว่า 90% โดยมีแพจำนวน 14 หลังเสียหายทั้งหมด จากจำนวนแพทั้งหมด 16 หลัง แต่โชคดีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวและพนักงานของรีสอร์ตได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากพนักงานรีสอร์ตได้เร่งเคลียร์นักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันทีตั้งแต่เริ่มเกิดเพลิงไหม้
สำหรับค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
โดย นายขวัญชัย ถิระศิลป์ คณะกรรมการบริหารมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้แพพักภายในรีสอร์ตดังกล่าว ได้จัดกำลังอาสาสมัครจากหลายจุดลงพื้นที่ร่วมเข้าระงับเหตุทันที แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงไว้ได้ เนื่องจากแพปลูกอยู่ในแม่น้ำ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำของรีสอร์ต และเครื่องสูบน้ำของรถดับเพลิงจากหน่วยงานต่างๆ ช่วยในการสูบน้ำ และสามารถป้องกันแพพักไม่ให้ถูกไฟไหม้ไว้ได้ จำนวน 2 หลัง อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆ จัดหาเครื่องสูบน้ำติดไว้ประจำแพ หากเกิดเหตุเพลิงไหม้จะสามารถระงับเหตุได้ทันท่วงที ซึ่งจะลดความสูญเสียลงได้