ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือนำเรือหลวงนเรศวร นำอัฐิว่าที่ นาวาตรีพลรัตน์ ต้นเรือเรือหลวงสุโขทัย สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ลอยอังคาร ณ อ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีญาติ และผู้บังคับบัญชาร่วมส่งดวงวิญญาณอย่างสมเกียรติ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (22 ม.ค.) กองทัพเรือ โดย พล ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีลอยอังคารว่าที่ นาวาตรีพลรัตน์ ต้นเรือเรือหลวงสุโขทัย สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ที่เสียชีวิตจากเหตุเรืออับปางเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้ประกอบพิธีขอขมาต่อแม่ย่านาง ณ ดาดฟ้าเรือ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง ข้าราชการ รวมทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าร่วม ก่อนจะล่องเรือออกสู่กลางทะเลอ่าวสัตหีบ เพื่อกระทำพิธีขอขมาบูชาต่อเจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดร ในการนำอัฐิลอยลงสู่ท้องทะเล และได้วนเรือในทะเลจำนวน 3 รอบ เพื่อเป็นการน้อมส่งดวงวิญญาณ
ขณะที่ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและความเสียสละอันใหญ่หลวงของกำลังพลต่อการทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิต ถือเป็นเกียรติประวัติที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือไทย
สำหรับ ว่าที่ นาวาตรีพลรัตน์ เป็นบุตรของ พล ร.อ.พลวัฒน์ และหม่อมหลวงอารยา สิโรดม ว่าที่ นาวาตรีพลรัตน์ เป็นข้าราชการกองทัพเรือ สังกัดกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ตำแหน่งต้นเรือ เรือหลวงสุโขทัย จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 50 โรงเรียนนายเรือ รุ่นที่ 107
เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญคือ ผู้บังคับหมู่เรือตรวจการณ์ที่ 2 หมวดเรือที่ 2 กองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ/ผู้ช่วยต้นปืน แผนกอาวุธและการเรือ เรือหลวงสุโขทัย/นายทหารสื่อสาร แผนกยุทธการและสื่อสาร เรือหลวงสุโขทัย/ต้นหน แผนกเดินเรือ เรือหลวงสุโขทัย/รักษาราชการนายทหารการอาวุธ แผนกอาวุธและการเรือ เรือหลวงสุโขทัย และผู้บังคับการเรือ ต.81 หมวดเรือที่ 2 กองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ และต้นเรือ เรือหลวงสุโขทัย
โดยตลอดพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พวงมาลาหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ พระราชทานและประทานพวงมาลาที่หน้าหีบศพ ว่าที่ นาวาตรีพลรัตน์ สิโรดม พร้อมกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด ซึ่งการได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ครอบครัวสิโรดม ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้