สมุทรสงคราม - เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดภายในอู่ต่อเรือสมุทรสงคราม เสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่เร่งระดมกันฉีดน้ำดับเพลิง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ล่าสุด เจ้าท่าสมุทรสงครามอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบสาเหตุการระเบิด
เช้าวันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดเรือบรรทุกน้ำมันสมุธซี 22 ซึ่งจอดซ่อมบำรุงอยู่ภายในอู่ต่อเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เพลิงยังปะทุอย่างต่อเนื่อง
นายสถาพรสกุลแก้วอายุ 65ปีผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งบ้านอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100เมตรบอกว่าขณะอยู่ที่บ้านได้ยินเสียงระเบิดดัง 2ครั้งติดกันครั้งแรกดังไม่แรงนักแต่ครั้งที่ 2ดังแรงมากจนตนรู้สึกจุกแน่นหน้าอกอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง
นอกจากนี้ กระจกหน้าต่างบ้านแตกร่วงกราวเมื่อตั้งสติได้จึงรีบออกมาดูก็พบว่ามีกลุ่มควันไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากเรือลำดังกล่าวพร้อมกับมีเปลวเพลิงลุกไหม้ตามมาและน่าจะมีผู้บาดเจ็บหลายคนเพราะมีรถมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงครามและรถโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลศหล้าวิ่งเข้าไปรับผู้ป่วยหลายเที่ยวแต่ไม่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตหรือไม่
สาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือเปล่าไม่มีน้ำมันในเรือแต่อย่างใดและผู้ประกอบการได้นำเรือเข้าซ่อมบำรุงสันนิษฐานว่าขณะที่คนงานกำลังอ๊อกเชื่อมถังน้ำมันซึ่งแม้จะไม่มีน้ำมันแต่มีกลิ่นไอของน้ำมันอาจทำให้เกิดแรงอัดและระเบิดขึ้นได้
เบื้องต้นทราบว่า มีผู้บาดเจ็บ 3-4 คน เป็นชาวพม่าและคนไทย 1คนคือนายสมพงษ์ ใจวิถี ส่วนผู้สูญหายเบื้องต้นทราบว่ามี 7คนเป็นคนไทย 1คน ที่เหลือเป็นชาวพม่าโดยที่เกิดเหตุมีผู้ปฏิบัติงานในเรือประมาณ 10 คน มีผู้ปฏิบัติงานบนฝั่งซึ่งเป็นอู่ซ่อมเรือประมาณ 30 คน
ด้านกรมเจ้าท่า ระบุว่า มีลูกเรือในเรือที่ระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยนำส่งรักษาตัวแล้ว โดยเรือดังกล่าวเป็นเรือเปล่ารอจอดซ่อม และยังไม่พบคราบน้ำมันไหลออกจากเรือที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ขณะนี้เจ้าท่าสมุทรสงคราม อยู่ระหว่างเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุการระเบิด
สำหรับเรือ SMOOTH SEA 22 เริ่มใบอนุญาตใช้เรือเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 และหมดอายุใบอนุญาตใช้เรือ วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 โดยระบุประเภทการใช้บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส ประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เขตการเดินเรือ ลำน้ำและทะเลระหว่างจังหวัดตราด กับจังหวัดนราธิวาส