บุรีรัมย์ - จนท.บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ลงพื้นที่หาแนวทางช่วยเหลือและดูแลเยียวยาสภาพจิตใจครอบครัวนักเรียนหญิง ม.2 น้อยใจถูกบูลลี่พ่อแม่แยกทางคิดสั้นกระโดดน้ำเสียชีวิต เพื่อนห้องเดียวกันยันไม่มีใครบูลลี่อาจเป็นการฝังใจเคยถูกล้อตอนเด็ก ผอ.ร.ร.เผยน้องเพิ่งย้ายมาไม่ถึงเดือนจึงไม่ทราบปมปัญหาแท้จริง แต่ปกติ ร.ร.กำชับเรื่องนี้อยู่แล้ว
วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ด.ญ.มิว (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ คิดสั้นกระโดดสระน้ำประจำหมู่บ้านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ม.ค. คาดว่าน่าจะน้อยใจที่ถูกเพื่อนล้อหรือบูลลี่เรื่องพ่อแม่แยกทางกัน เนื่องจากพบข้อความโพสต์ระบายตัดพ้อในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบุรีรัมย์ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยสอบถามข้อมูลกับทางครอบครัวเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตเพื่อหาทางช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นจะประสานกับโรงเรียนเพื่อดูแลเรื่องเงินประกันว่าจะเข้าข่ายได้รับเงินประกันหรือไม่ เพราะน้องเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนมัธยมที่นี่ยังไม่ถึงเดือน รวมถึงช่วยเหลือเรื่องเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุให้กับยายที่ดูแลน้อง และเยียวยาเรื่องสภาพจิตใจของคนในครอบครัว เพราะยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียน้องไปกะทันหัน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามคนในครอบครัวถึงสาเหตุที่น้องคิดสั้น และข้อความที่โพสต์ในวันเกิดเหตุนั้น ทางครอบครัวยืนยันว่าเรื่องที่ถูกเพื่อนล้อหรือบูลลี่นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่น้องเรียนอนุบาล ส่วนที่น้องโพสต์ว่าถูกอนาจารนั้นครอบครัวยืนยันว่าไม่เคยมีใครทราบเรื่องเลย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมที่น้องเรียนอยู่ แต่วันนี้โรงเรียนปิด จึงได้เดินทางไปสอบถาม ด.ญ.เนย (นามสมมติ) เพื่อนห้องเดียวกันกับน้องมิว บอกว่า มิวเพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็เป็นคนนิสัยดี ร่าเริง พูดเก่งเข้ากับคนอื่นได้ดี เท่าที่สังเกตก็ไม่เคยเห็นแสดงอาการซึมเศร้าให้เพื่อนที่โรงเรียนเห็น แต่จะชอบไปโพสต์ระบายในเฟซบุ๊ก โดยล่าสุดวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันสอบกลางภาควันสุดท้าย แต่มิวไม่ได้มาสอบ เพื่อนในห้องก็คิดว่าไม่สบายจึงไม่ได้เอะใจอะไร
กระทั่งตกเย็นมีเพื่อนส่งข้อความมาบอกว่ามิวกระโดดน้ำเสียชีวิตแล้วก็ตกใจ พอเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของมิวก็พบมีการโพสต์ข้อความลักษณะตัดพ้อว่าถูกบูลลี่เรื่องพ่อแม่แยกทางกันและถูกอนาจาร ซึ่งยืนยันว่าตั้งแต่มิวย้ายมาเรียนที่นี่ไม่เคยมีใครล้อหรือบูลลี่เลย จึงคิดว่าอาจจะเป็นความคิดฝังใจตอนเด็กที่อาจจะเคยโดยเพื่อนสมัยเด็กล้อแล้วเก็บมาคิดระบายความรู้สึกหรือไม่ ส่วนเรื่องที่บอกว่าถูกอนาจารแต่ไม่มีใครช่วยนั้นตนเองก็ไม่ทราบ เพราะเพื่อนก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง
ด้าน นางทรรศนีย์ พลพวก ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมที่น้องเรียนอยู่ บอกว่า น้องเพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียนที่นี่วันที่ 15 ธ.ค. จนถึงวันที่น้องเสียชีวิตก็ยังไม่ถึงเดือน จึงคิดว่าที่น้องโพสต์ตัดพ้อระบาดในเฟซฯ ว่าถูกเพื่อนบูลลี่หรือลวนลามนั้น ไม่น่าจะเกิดที่โรงเรียนนี้ อาจจะเกิดที่โรงเรียนเดิมหรือที่อื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ก็ไม่ทราบได้ แต่ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้กำชับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีการล้อเลียนหรือบูลลี่เพื่อน ซึ่งนักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่กับปู่ย่าตายายเพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหาในลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุก็จะได้กำชับดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น
