บุรีรัมย์ - ทายาทและชาวบ้านสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมตัวประท้วงหลังถูกเบี้ยวเงินค่าจัดการศพ 40 รายรวมกว่า 3 ล้าน ทำทายาทเดือดร้อนต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจัดงานศพ สมาคมฯ ยอมรับ จนท.การเงินแอบเบิกเงินไปซื้อที่ดินร่วมล้าน และบางส่วนสมาชิกฯ ค้างชำระทำขาดสภาพคล่อง ด้านนายอำเภอยื่นคำขาด 3 เดือนไม่จ่ายแจ้งความดำเนินคดียักยอก
วันนี้ (9 ม.ค.) ทายาทและสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์กว่า 200 คน ได้รวมตัวกันที่หอประชุมหลังที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัย เพื่อกดดันเรียกร้องให้ทางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีพลับพลาชัยแอกมาชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากทางสมาคมฯ เบี้ยวเงินค่าจัดการศพสมาชิกที่เสียชีวิตจำนวน 40 ราย เฉลี่ยรายละ 85,000 บาท มานานหลายเดือน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิต เพราะต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ
พอไปทวงถามทางสมาคมฯ อ้างว่าเก็บเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้าจากสมาชิกได้ยังไม่ครบ ทำให้ทางสมาคมฯ ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินสำรองที่จะจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิต แต่ชาวบ้านที่มาประท้วงบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะคณะกรรมการบางคนแอบเบิกถอนเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว จนทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่าทำศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต
จึงได้มารวมตัวกันชุมนุมประท้วงเพื่อกดดันให้ทางสมาคมฯ ออกมาชี้แจงและรับผิดชอบจ่ายเงินค่าทำศพที่ค้าง ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าหากภายในเดือนมีนาคมไม่นำเงินค่าทำศพที่ค้างมาจ่ายให้ครบทั้ง 40 ราย จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้น นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอพลับพลาชัย ได้มารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่มารวมตัวชุมชน พร้อมทั้งรับปากจะเป็นตัวแทนเร่งรัดให้ทางสมาคมฯ นำเงินค่าจัดการศพที่ค้างมาจ่ายให้แก่สมาชิกที่เสียชีวิตโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากทางสมาคมฯ ถึงสาเหตุที่ค้างจ่ายค่าทำศพ บางส่วนเกิดจากสมาชิกหลายคนยังไม่ได้ชำระเงินรายปี อีกส่วนคือมีเจ้าหน้าที่บางคนเคยแอบเบิกถอนเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งตนได้เร่งรัดให้ทางสมาคมฯ หาแนวทางแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หากไม่สามารถนำเงินที่ค้างมาจ่ายได้ก็แนะนำให้ชาวบ้านไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายฐานยักยอก โดยในวันที่ 18 มกราคม 2566 นี้จะนัดทั้งทางสมาคมฯ และสมาชิกมาพูดคุยกันอีกครั้ง
ด้าน นางจันทิมา มะลิซ้อน เจ้าหน้าที่การเงินประจำสมาคมฯ หนึ่งใน 2 คน ระบุว่า ปัจจุบันสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์กลุ่มสตรีอำเภอพลับพลาชัยมีสมาชิก 4,750 คน ก่อนหน้านี้เก็บเงินค่าสงเคราะห์ศพล่วงหน้ารายปีเฉลี่ยปีละ 2,440 บาท แต่ปี 2565 ปรับเพิ่มเป็นปีละ 3,040 บาทตามจำนวนสมาชิกที่เสียชีวิต และเก็บค่าบำรุงรายปีอีกคนละ 40 บาท ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไร
กระทั่งปี 2563 สมาชิกหลายคนเริ่มค้างชำระเงินสงเคราะห์รายปี สะสมจนถึงปัจจุบัน 584 ราย รวมเป็นเงินกว่า 1,599,000 บาท ทำให้ทางสมาคมฯ ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเพราะไม่มีเงินสำรองไปจ่ายค่าจัดการศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิต ประกอบกับหนึ่งในเจ้าหน้าที่การเงินแอบเบิกถอนเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และซื้อที่ดินอีกกว่า 8 แสนบาท ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเซ็นรับทราบสภาพหนี้ไว้ ซึ่งหากไม่นำเงินมาเคลียร์ภายในเดือนมีนาคม 2566 ที่จะถึงนี้ทางสมาคมฯ จะแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวฐานยักยอกเงินสมาคมฯ
"ขอยืนยันว่าคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่คนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินที่แอบถอนเงินไปใช้ส่วนตัว สำหรับเงินที่สมาชิกยังค้างจ่ายจะเร่งรัดติดตามทวงถามเพื่อจะได้นำเงินไปจ่ายค่าทำศพให้แก่สมาชิกที่เสียชีวิตอย่างเร่งด่วนต่อไป" นางจันทิมา กล่าวในตอนท้าย
