ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เดอะมอลล์โคราชตั้งเป้ายอดขายปีกระต่ายโกยเพิ่ม 10% ของยอดปี 2019 เฉียด 3,000 ล้านบาท ห่วงปัจจัยลบโควิดระบาดระลอกใหม่ ประเดิมขานรับนโยบายรัฐกับมาตรการกระตุ้น “ช้อปดีมีคืน” ร่วมลดหย่อนภาษีปี 2566 จากการใช้จ่ายจริงสูงสุด 40,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการพร้อมออกใบกำกับภาษีที่เดอะมอลล์โคราช ทั้งห้างฯ ทุกชั้น ทุกแผนก เริ่ม 1 ม.ค.-15 ก.พ.นี้
นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์นครราชสีมา เปิดเผยว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป และเดอะมอลล์โคราช กรุ๊ป ขานรับนโยบายรัฐบาลกับมาตรการช้อปดีมีคืน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 -15 กุมภาพันธ์ 2566 เอาใจนักชอปเมื่อซื้อสิ้นค้าและบริการสูงสุด 40,000 บาท รับสิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนจริง คืนภาษีได้สูงสุด 14,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราเงินได้สุทธิที่เสียภาษี ที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
โดยตามมาตรการรัฐได้แบ่งเป็น 1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาทแรก ต้องมีใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษหรือใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร, 2. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาทที่เหลือ จะต้องมีใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น ส่วนสินค้าประเภทหนังสือ e-book และสินค้า OTOP จะต้องใช้ใบเสร็จรับเงินด้วย
สำหรับจุดออกใบกำกับภาษีที่เดอะมอลล์ โคราช มีทั้งหมด 3 จุดบริการ ดังนี้ 1. จุด In Spector บริเวณหน้ากูร์เมต์มาร์เก็ต ชั้น 1 2. จุด In Spector แผนก The Living ชั้น 2 3. จุด In Spector แผนก Power mall ชั้น 3
ส่วนสินค้าและบริการที่ไม่ร่วมมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ได้แก่ 1. ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ 2. ค่ายาสูบ, บุหรี่ 3. ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ 4. ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร 5. ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ 6. ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม 7. ค่าสาธารณูปโภค 8. ค่าน้ำประปา 9. ค่าไฟฟ้า 10. ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ 11. ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และ 12. ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2566 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2566-15 กุมภาพันธ์ 2566 และ 13. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัยเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และผู้ประกอบกิจการ
ทั้งนี้ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากร (สรรพากร Call Center) โทร. 1161 ให้บริการข้อมูลสรรพากรทางโทรศัพท์แก่ผู้เสียภาษีและประชาชนทั่วไป เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น.
นายปรีชากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวขาดการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจหรือรัฐอาจจะออกมาตรการนี้มาค่อนข้างเร็วจึงทำให้คนไม่ทราบในรายละเอียดมากนัก แต่จากนี้ไปคาดว่าประชาชนคงจะรับทราบมากขึ้น สำหรับเดอะมอลล์โคราช พยายามเร่งการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการ และไม่เสียโอกาส
ต้องยอมรับว่าขณะนี้ประเทศไทยเราอยู่ในช่วงการสร่างไข้ ทุกคนยังไม่กล้าใช้เงินมากนัก ประกอบกับกำลังซื้อของคนยังไม่ฟื้นตัวมากนัก บางคนยังเซฟเงินในกระเป๋าไว้เพื่อให้มั่นใจก่อน รวมถึงรอดูสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ว่าจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด แต่คาดว่าการระบาดครั้งนี้คงไม่กระทบมากเพราะส่วนใหญ่เคยชินกับสถานการณ์ดังกล่าว และประเทศไทยเคยผ่านช่วงวิกฤตนี้มาแล้ว เพียงแต่ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือไว้เท่านั้น อาจจะส่งผลให้เพิ่มการระมัดระวังเรื่องการจับจ่ายใช้สอยเท่านั้น
นายปรีชากล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการของเดอะมอลล์ โคราช ปีที่ผ่านมา โดยรวมถือว่าดี และโดยเฉพาะในช่วงเดือนสุดท้ายของปีที่ตนเองกลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดเจน บางคนที่ห่างหายไม่เข้ามาชอปปิ้งที่เดอะมอลล์โคราชก็หวนกลับมาอีกครั้ง
"ส่วนปี 2566 นั้น ในฐานะที่ตนเข้ามาบริหารงานเดอะมอลล์โคราชอย่างเต็มตัวอีกครั้งมีการตั้งเป้ายอดขายโดยรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 จากปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่เดอะมอลล์โคราชมียอดขายเติบโตสูงที่สุดประมาณ 2,700 ล้านบาท เพิ่มอีก 10% ก็ประมาณเกือบ 3,000 ล้านบาท สำหรับตนเองถือเป็นงานที่ท้าทายและยากมาก เนื่องจากสถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากเดิมมาก รวมถึงพฤติกรรมของคนซื้อก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายปรีชา กล่าวในที่สุด