อุดรธานี - เจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานีรุดเยี่ยมนายชาลี “มนุษย์ต้นไม้” สร้างบ้านพักอาศัยอยู่บนต้นไม้นานหลายปี
รับปากหาที่อยู่ปลอดภัยพร้อมข้าวปลาอาหารให้ แต่เจ้าตัวปฏิเสธขออยู่อย่างสันโดษ ขอเพียงหางานให้ทำมีรายได้เลี้ยงชีพประทังชีวิตไปวันๆ ก็พอใจแล้ว
กรณีนายชาลี อายุ 38 ปี หรือมนุษย์ต้นไม้สร้างกระท่อมพักอาศัยอยู่บนต้นอะลางสูงเกือบ 10 เมตรในป่ารกร้างที่ดินเอกชนในเมืองอุดรธานี โดยเจ้าตัวหลับนอนอยู่บนนั้นมานานกว่า 3 ปีแล้ว บ้านต้นไม้ของนายชาลีสร้างมาจากเศษไม้วัสดุที่เหลือใช้ ใช้ไม้เศษที่เก็บมาได้ ทำขึ้นมาแบบง่ายๆ นำไม้ไปวางและมัดโดยเชือกโดยไม่ยึดติดกับต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้ได้ขยายตัว ส่วนหลังคาก็มุงด้วยผ้าใบ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกของนายชาลีที่มีบ้านอยู่บนต้นไม้
นายชาลีบอกว่า เดิมทีตนเป็นชาวอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีพี่น้องร่วมกัน 5 คน ก่อนหน้านี้เคยทำงานที่กรุงเทพมหานคร ทำงานหาเงินได้ก็ส่งกลับมาดูแลทางบ้าน แต่เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จึงเดินทางกลับมาทำงานรับจ้างทั่วไปใกล้บ้านแถวจังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี และทำงานรับจ้างทั่วไปที่จังหวัดอุดรธานีมานานเกือบ 7 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เช่าบ้าน แต่เพราะเศรษฐกิจแย่ลง
ประกอบกับโรคโควิด-19 ระบาดหนักจนงานไม่ค่อยมีให้ทำจึงไม่มีเงิน ติดหนี้ค่าเช่าหอประมาณ 3,000 บาท จึงย้ายออกมาสร้างกระท่อมบนต้นไม้นานเกือบ 3 ปีแล้ว ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ตื่นเช้ามามีงานก็ออกไปรับจ้าง ส่วนกับข้าวบางทีก็ไปขอที่วัดและขอกับคนรู้จักบ้างซึ่งคนแถวนี้ใจดี
ล่าสุดวันนี้ (7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่พัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครอุดรธานี ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลสอบถามข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือนายชาลี โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่าหากไม่อยากอยู่บนต้นไม้สามารถมาขออยู่ที่ศูนย์คนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานีได้ ซึ่งศูนย์มีทั้งที่พักที่นอนและอาหาร 3 มื้อ ซึ่งถือว่าปลอดภัยกว่าอยู่บนต้นไม้ โดยนายชาลีก็รับฟังแต่ก็ยืนยันจะขออยู่บนต้นไม้เช่นเดิม แต่ขอให้ช่วยหางานให้ทำก็เพียงพอ
ด้านเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาวันนี้ไม่ได้จะเอาผิดอะไร แต่อยากจะให้ความช่วยเหลือ เท่าที่พูดคุยตอนนี้คุณชาลีอยากจะนอนอยู่บนต้นไม้เช่นเดิม แต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเรื่องอาหารและการทำงาน อย่างไรก็ดีเราจะช่วยประสานทางจัดหางานช่วยดูในเรื่องงานต่อไป
โดยขอให้นายชาลีนำเอกสารมายืนยันตัวตนให้แน่ชัด จากนี้ก็จะนำข้อมูลที่ได้เข้าที่ประชุมกับผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานีต่อไป
