สระแก้ว - ทางการกัมพูชาเร่งรื้อถอนอาคารส่วนที่ถูกเพลิงไหม้ในกาสิโนแกรนด์ไดมอน ปอยเปต พร้อมขนย้ายทรัพย์สินและตู้เซฟจำนวน 7 ตู้ ที่ภายในมีเงินสดจำนวนมากออกจากพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังเตรียมขอรับการสนับสนุนทีมวิศวกรตรวจสอบโครงสร้างอาคารจากฝั่งไทย
จากเหตุการณ์ไฟไหม้กาสิโน “แกรนด์ไดมอน ซิตี้” ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ช่วงเวลาประมาณ 23.00-24.00 น. ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างวันที่ 28 -29 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
และเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว รวมทั้ง พ.อ.อนุพงศ์ มูลบรรจบ ผบ.ชค.ทพ.13 และ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ในฐานะชุดกองอำนวยการร่วมฝั่งไทย ได้รับข้อมูลจากทางการกัมพูชาว่า หน่วยงานในพื้นที่ได้เริ่มทยอยรื้อถอนซากอาคารที่ถูกไฟไหม้แล้ว
โดยมี นายงอ เมงจรวญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถเครนและเครื่องมือหนักเข้าช่วยเหลือในการขนย้ายทรัพย์สิน โดยเฉพาะตู้เซฟ จำนวน 7 ตู้ ที่ยังอยู่ภายในกาสิโนดังกล่าว และจะดำเนินการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายตามคำร้องขอของเจ้าของกาสิโน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางด้านหน้ากาสิโน จนส่งผลให้การเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวก เพราะรถยนต์จะต้องวิ่งอ้อมไปทางด้านหลังกาสิโนที่มีการจราจรแออัด และยังต้องวิ่งผ่านย่านต้นพุทรา เพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 5
ส่วนรถขนส่งทุกชนิดต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางสะพานหนองเอียน-สตรึงบท เป็นการชั่วคราวและหากดำเนินการแล้วเสร็จอาจมีการพิจารณาให้กลับมาใช้เส้นทางด่านคลองลึกเช่นเดิม
โดยเจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ติดตั้งกำแพงปิดกั้นเส้นทางที่จะเข้าไปบริเวณอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เพื่อเริ่มทำการรื้อถอนสะพานเชื่อมอาคารบ่อนกาสิโนทั้ง 2 จุด
ด้าน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่า ปฏิบัติการสนับสนุนทีมวิศวกรช่วยตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อประเมินความมั่นคงแข็งแรงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อคนในพื้นที่หรือไม่ หรือสุดท้ายจะต้องรื้อถอน
และหากทางการกัมพูชาได้ทำหนังสือขอความร่วมมือแจ้งมาจังหวัดอย่างเป็นทางการ พร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่โยธาธิการจังหวัดสระแก้ว เข้าช่วยเหลือทันที
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุมระดับจังหวัดชายแดนที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เข้าร่วมเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 ที่ผ่านมาได้มีข้อตกลงร่วมกัน 9 ข้อ และในจำนวนนั้นคือทั้ง 2 ฝ่าย ยินดีที่จะให้การช่วยเหลือในด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน
และยังจะอนุญาตให้ยานพาหนะประเภทรถพยาบาล หรือรถสำหรับส่งต่อผู้ป่วยของทั้ง 2 ประเทศ จึงทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
