ประจวบคีรีขันธ์ - พ่อแม่แทบใจสลาย เฝ้ารอ "จ่าบูม" วัย 22 ปี ที่ท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน มา 8 วันแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แวว หวังว่าคงมีปาฏิหาริย์
วันนี้ (26 ธ.ค.) การค้นหากำลังพลผู้สูญหาย เรือหลวงสุโขทัยที่อับปาง วันนี้เข้ามาเป็นวันที่ 8 แล้ว นายสมบูรณ์ อีสา วัย 51 ปี และครอบครัว เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวเรือจม วันนี้มาเฝ้ารอการค้นหาเข้าสู่วันที่ 8 แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววลูกชาย เพราะร่างที่ขึ้นมาใหม่ วานนี้ 3 ราย ยังต้องรอพิสูจน์อัตลักษณ์
"พ่อยอมรับว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน"
บูม หรือจ่าโทสหรัฐ อีสา วัย 22 ปี ยังเป็นหนุ่มอยู่ แถมเป็นนักกีฬาฟุตซอล เล่าย้อนว่า คืนวันนั้นก่อนเรือจะจมลง ลูกชายโทร.มาบอกแม่ว่า เรือกำลังจะจม แม่บอกว่าแล้วลูกมีชูชีพหรือเปล่า ลูกตอบว่าผมมีแต่ห่วงยาง แม่บอกว่าตั้งสติดีๆ ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรหรอก เรานึกว่าลูกเป็นทหารเรือ แถมเป็นเรือหลวงไม่น่ามีอะไร และตอนนั้นฟังข่าวว่าทุกคนปลอดภัยได้รับการช่วยเหลือ แล้วผมกับแม่ก็เข้านอนกันไปกระทั่งเช้า ประมาณ 8-9 โมงเช้า ยังไม่เห็นลูกโทร.กลับมาเริ่มเอะใจ กระทั่งทราบว่ามีเรือช่วยกำลังพลขึ้นมาได้ 75 ราย ขณะนั้นผมกับแม่พากันเดินทางมาที่ท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน ไปโรงพยาบาลบางสะพาน ไปที่ศูนย์รวมใจอุ่นไอรัก เจ้าหน้าที่บอกว่ากลับกันไปหมดแล้ว
ตนเจอกำลังพลคนหนึ่งที่ รพ.บางสะพาน เขาบอกว่ารู้จักจ่าบูม ผมเลยสอบถามว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นอย่างไร เขาก็เล่าว่า ”ผมกับบูมมาด้วยกัน ขณะที่กระกระโดดจากเรือลงไปแล้ว และอยู่ในทะเลมีเรือหลวงกระบุรี เข้ามาช่วย ช่วงนั้นคลื่นมันแรงมากท้ายเรือยกขึ้น จ่าบูมเกาะเชือกไว้ได้แล้ว แต่ขณะนั้นเรือขึ้นลงตามกระแสคลื่น ทำให้จ่าบูมหลุดจากเชือกที่จับไว้ และถูกคลื่นซัดออกไป และคลื่นก็ตีกลุ่มที่เกาะกันไว้บนแพแตกกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง ขณะนั้นมืดแล้ว คลื่นแรง และพ่อถามว่าแล้ว บูมมีชูชีพหรือเปล่า น้องกำลังพลที่รอดมานั้นก็บอกว่า "มีชูชีพ แต่ไม่ได้มีกันทุกคน"
จนกระทั่งวันนี้พ่อกับแม่ยังคงมีความหวังทุกวันที่มาเฝ้ารอ ตราบใดที่ยังไม่เจอศพลูก พ่อกับแม่รอเขาอยู่ บอกตรงๆ ไม่อยากคิดว่าเขาไม่อยู่แล้ว คิดว่าเขาต้องรอด ได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์
“วันนี้เราไม่เข้าใจว่าเสื้อชูชีพทำไมถึงมีไม่ครบทุกคน เรือรบขนาดนี้ก่อนออกไปปฏิบัติหน้าที่ต้องเช็กอุปกรณ์ว่ามันพร้อม หรืออุปกรณ์มีครบหรือไม่ ชูชีพพอไหม การทำงานในทะเลทุกวินาทีมันอันตรายอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าก่อนที่เรือจมจะมีการสละเรือการช่วยเหลือทำไมมันนานมาก ควรจะมีเทคโนโลยีในการให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็วกว่านี้ ไม่คิดว่ามันจะเป็นโศกนาฏกรรมแบบนี้จริงๆ”