ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 2 รวบผู้ต้องหานำธนบัตรดอลลาร์ปลอมขึ้นเงินกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุราษฎร์ธานี เสียหายหลายล้านบาท
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และ Mr.Gary J. Peterson Jr.เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประจำสถานทูตไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายนวัช หรือเอ็ด สิงหวรรค อายุ 54 ปี (ไม่ได้นำตัวมาแถลงข่าว) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.สุราษฎร์ธานี ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2
ตั้งข้อหา "มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม" หลังจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 99/178 ม.10 หมู่บ้านเอกมงคล 4 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีการตรวจค้นภายในรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม ทะเบียน กจ 4440 สมุทรปราการ พบของกลางธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 759 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,633,730 บาท
พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เผยว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ธนบัตรปลอมดังกล่าวเคยนำไปขึ้นเงินกับธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สอด แล้วจำนวน 99 ฉบับ ได้เงินจำนวน 373,083.084 บาท เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนจะนำเงินไปฝากเข้าบัญชีให้ผู้อื่น ซึ่งที่ผ่านมาได้เงินส่วนแบ่งแล้วประมาณกว่าแสนบาท โดยธนบัตรปลอมทั้งหมดรับมาจาก นายศิริมงคล ซึ่งอยู่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำเงินไปแลกธนาคารเป็นเงินไทยเพื่อส่งต่อให้ผู้อื่น และยังบอกอีกว่าตนเองจะได้รับเงินส่วนแบ่งจำนวน 2.5 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่แลกได้
โดยการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารเดินทางมาร่วมตรวจสอบโดยใช้เครื่องตรวจสอบธนบัตรปลอม จนพบว่าธนบัตรทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาได้เป็นธนบัตรปลอมทั้งหมด และธนบัตรดังกล่าวยังทำได้เหมือนจริงมาก
ที้งนี้ หากธนบัตรปลอมชุดนี้หลุดออกไปจะสร้างความเสียให้ระบบเศรษฐกิจในวงกว้างและจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นอย่างสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ Mr.Gary J. Peterson Jr. ตัวแทนเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่สามารถจับกุมคดีนี้ได้ โดยจากการตรวจสอบแบงก์ดังกล่าวพบว่ายังมีบางส่วนที่ขาดหายไปไม่เหมือนกับแบงก์จริง
“หากดูวิธีการรวมแล้ววิธีการพิมพ์ไม่เหมือนจริง ซึ่งจะมีวิธีการพิมพ์แบบ offset และอิงค์เจ็ท แต่ถ้าบุคคลทั่วไปซึ่งไม่ได้คุ้นเคยกับแบงก์ดังกล่าวจะคิดว่าใช้ได้ โดยภาพรวมมองด้วยตาเปล่า แต่พอมาผ่านเครื่องตรวจสอบแล้วจะไม่ผ่านเครื่องตรวจสอบดังกล่าวเลย” ตัวแทนเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าว