ศรีสะเกษ – ผู้ว่าฯนำเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมกว่า 380นาย ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำศรีสะเกษ ทุกจุดและตรวจผู้ต้องขังทุกคน เพื่อหยุดยั้งกลุ่มขบวนการและเครือข่ายใช้เรือนจำเป็นฐานกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมเป็นป้องปรามกระทำผิดวินัยของผู้ต้องขังในเรือนจำกว่า 1,567 คน
วันนี้ ( 22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีการปล่อยแถวกองกำลังผสมร่วมปฏิบัติการจู่โจม ตรวจค้น เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ ได้จัดพิธีนี้ขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่กองกำลังผสมร่วมปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ จากกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ฝ่ายปกครอง/ฝ่ายท้องที่/ชุด ชรบ.ผรส., กองร้อยอาสารักษาดินแดน, ศูนย์อำนวยป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ และเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ มาร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้
โดยหลังจากพิธีปล่อยแถวแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปภายในบริเวณเรือนจำ เพื่อเข้าไปตรวจค้นทุกแห่งทั้งเรือนนอน โรงอาหาร อาคารเอนกประสงค์ บริเวณที่อาบน้ำ โรงฝึกอาชีพ ทั้งแดนหญิง แดนชาย พร้อมทั้งตรวจค้นผู้ต้องขังทุกคนอย่างละเอียด เพื่อหาสิ่งเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายทุกอย่าง โดยได้นำสุนัขทหารชื่อ ทันเดอร์ และเหย สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 มาใช้ในการดมกลิ่นเพื่อหายาเสพติดด้วย
จากการตรวจค้นอย่างละเอียดแล้วไม่พบยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยมี นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินทร์พานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐกิตติ์ เจริญเกษสุวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.สันติ วัฒนทองกุล ฝ่ายการข่าว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เจ้าหน้าที่กองกำลังผสม ทั้งจากฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องที่ และฝ่ายราชทัณฑ์ มาร่วมในพิธีครั้งนี้
นายเริงศักดิ์ เกตุจันทึก ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยในเรื่องของการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นองค์รวม และมีการดำเนินงานอย่างบูรณาการประสานสอดคล้องกันของทุกหน่วยงานในทุกมาตรการและ จ.ศรีสะเกษ ได้กำหนดนโยบายเน้นการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และที่สำคัญคือ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ การมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดและการจำหน่ายยาเสพติดในเรือนจำ ตัดช่องทางการติดต่อซื้อขายและการลักลอบนำยาเสพติด ตลอดจนสิ่งของต้องห้ามเข้าภายในเรือนจำ
เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ มีจำนวนผู้ต้องขังชาย จำนวน 1,567 คน ผู้ต้องขังหญิง จำนวน 119 คน รวมทั้งสิ้น 1,686 คน ได้มีการปฏิบัติการด้านการข่าว การเฝ้าระวังและดำเนินการจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขัง อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อเป็นการหยุดยั้งกลุ่มขบวนการและเครือข่ายที่จะใช้เรือนจำเป็นฐานในการกระทำผิด เพื่อเป็นการป้องปรามและปราบปรามการกระทำผิดวินัยของผู้ต้องขังในเรือนจำ
โดยการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ได้สนธิกำลังจาก กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ฝ่ายปกครอง/ฝ่ายท้องที่/ชุด ชรบ./ชุด ผรส.กองร้อยอาสารักษาดินแดน ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายราชทัณฑ์ รวมจำนวนทั้งสิ้น 381 นาย
นายสำรวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ได้ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะการตรวจค้นในเรือนจำและทัณฑสถาน ในทุกพื้นที่ เพื่อตรวจหาสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของผิดกฎหมาย ตลอดจนการสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง ทุกคน แม้ว่าผลการตรวจค้นจะไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่เป็นการป้องกันไม่ให้มีการนำเอาสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ