ประจวบคีรีขันธ์ - ครอบครัวบริจาคอวัยวะบุตรชายวัย 28 ปี หลังประสบอุบัติเหตุสมองตาย ผ่าตัดใหญ่เพื่อนำไปปลูกถ่ายอวัยวะต่อชีวิตผู้ป่วยได้อีก 6 ราย เคสแรกโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
วันนี้ (15 ธ.ค.) นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Arak Wongworachat และเพจโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ว่า เรื่องราวที่สุดประทับใจแห่งปี 2565 ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ หนึ่งชีวิตต่อลมหายใจ สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ มอบอวัยวะให้อีก 6 ชีวิต ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับบริจาคอวัยวะประกอบด้วย หัวใจ ตับ ไต 2 ข้าง ตับอ่อน และดวงตา 2 ข้าง เป็นกรณีตัวอย่างผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ได้รับบาดเจ็บทางสมอง อย่างรุนแรง ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมองได้พยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ รักษาโดยการผ่าตัดสมอง ดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤต แต่ไม่อาจรักษาให้สมองกลับฟื้นคืนมาได้ อยู่ในภาวะสมองตาย แต่สมรรถภาพของหัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ดีมาก
ทีมพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยได้ปรึกษาหารือกับบิดา มารดา และญาติผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดถึงแนวทางการรักษา และโอกาสที่สมองจะกลับฟื้นคืนมามีน้อยมาก จึงได้ขอรับบริจาคอวัยวะให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อนำไปให้ผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายอวัยวะ อยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อญาติที่อยู่กันอย่างพร้อมเพรียงได้ตัดสินใจบริจาค ทางโรงพยาบาลได้ประสานไปยังสภากาชาดไทย เพื่อเตรียมทีมแพทย์ พยาบาล เครื่องมืออุปกรณ์มาเก็บอวัยวะ รวมถึงการเตรียมผู้ที่รอคอยการปลูกถ่าย โดยเฉพาะหัวใจที่ถือเป็นอวัยวะสำคัญ มีเวลาในการขนย้ายเพียง 4 ชั่วโมง การวางแผนในทุกขั้นตอนจึงสำคัญมาก
เนื่องจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปกรุงเทพมหานคร หากเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ถ้าการจราจรติดขัดอาจมากกว่า 5 ชั่วโมง และไม่มีสายการบินพาณิชย์ให้เดินทางได้ มีเพียงสนามบินกองทัพอากาศ กองบิน 5 อ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเพียงเครื่องบินเล็กเท่านั้นที่สามารถบินขึ้นลงได้
การขนย้ายหัวใจจึงต้องเดินทางทางอากาศยานเท่านั้นถึงจะทันการผ่าตัดปลูกถ่ายได้ ทีมแพทย์ พยาบาล 11 คน จากโรงพยาบาลศิริราช ออกเดินทางโดยรถยนต์ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึงโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เวลา 08.00 น. เริ่มเตรียมผู้ป่วยทันที ทั้งฝั่งผู้ให้และผู้รับ ใช้เวลาเก็บหัวใจไม่นาน แพทย์ 2 ท่านรีบเก็บรักษาหัวใจในภาชนะที่มีการควบคุมอุณหภูมิ แล้วออกเดินทางไปสนามบินกองบิน 5 ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก เพียง 5 นาที ได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดียิ่งจากนายทหารกองบิน 5 มีเครื่องบินเล็กอาสาได้บินมาจอดรอไว้แล้ว เมื่ออวัยวะมาถึงนักบินเตรียมความพร้อม แพทย์ 2 ท่านพร้อมหัวใจประจำที่ เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า จนอวัยวะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ถือเป็นครั้งแรกที่สนามบินกองบิน 5 ได้มีส่วนช่วยขนอวัยวะในครั้งนี้
สำหรับอวัยวะส่วนอื่นๆ ยังสามารถรอเวลาได้ ทีมแพทย์ที่เหลือ พร้อมอวัยวะจึงได้เดินทางกลับไปกรุงเทพมหานครทางรถยนต์ เพื่อมอบให้สภากาชาดไทย ปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่รอคอยต่อไป ขออนุโมทนาบุญ และขอเชิดชูเกียรติแก่ผู้บริจาคและครอบครัวที่ได้ร่วมสร้างบุญครั้งใหญ่ในชีวิต ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการบริจาคร่างกายและอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ
นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เผยว่า ทางโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ หลังจากประสานทางญาติและสภากาชาดไทย มีการเตรียมการโดยเฉพาะทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์กว่า 24 ชั่วโมง ถือเป็นเคสใหญ่เคสแรกของโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ สำหรับการผ่าตัดสำเร็จไปด้วยดี โดยเฉพาะหัวใจซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมงภายหลังจากผ่าตัดจนถึงเวลาปลูกถ่าย ดังนั้น จึงต้องเร่งกระบวนการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด
ทีมงานที่ทำการผ่าตัดรู้สึกปลื้มปีติ และขอชื่นชมจิตใจที่งดงามของพ่อแม่ น้องผู้บริจาควัย 28 ปีรายนี้ไว้ ณ ที่นี้ พร้อมกันนี้ ขอขอบพระคุณทีมงานโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทีมแพทย์พยาบาลจากศิริราช สภากาชาดไทย และกองบิน 5 ที่อำนวยความสะดวกให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับร่างผู้บริจาครายนี้ ทางโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์นำส่งให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปที่จังหวัดชุมพร